ไม่พบผลการค้นหา
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ค้านเพิ่มอำนาจ ป.ป.ช.ดักฟังโทรศัพท์ ส่องแชทไลน์ อีเมล์ ขณะที่เห็นด้วยกับการกำหนดให้ ป.ป.ช. ชุดปัจจุบัน อยู่ต่อไปจนครบวาระ

วันที่ 21 ธ.ค.60- การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีวาระสำคัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ต่อในวาระ 2 และ 3 โดยร่างนี้มีทั้งสิ้น 193 มาตรา กรรมาธิการแก้ไข 99 มาตรา เพิ่มขึ้น 14 มาตรา มีกรรมาธิการสงวนความเห็น 10 คน

โดยสาระสำคัญที่ต้องจับตา คือ มาตรา 37/1 ซึ่งกรรมาธิการกำหนดขึ้นมาใหม่ เพิ่มอำนาจให้ ป.ป.ช.สามารถดักฟังโทรศัพท์ เจาะแชทไลน์ อีเมล์ บุคคลที่พึ่งสงสัยได้ว่ามีพฤติกรรมทุจริต โดยมาตรานี้ มีกรรมาธิการเสียงข้างน้อย และ สนช.หลายคนไม่เห็นด้วย อาทิ กรธ. นายวิชา มหาคุณ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ และล่าสุด นายสมชาย แสวงการ ขอให้ตัดมาตรานี้ออก เพราะอำนาจเยอะเกินไป เหมือนเป็นดาบสองคม

ส่วนเรื่องการดำรงอยู่ของกรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน กรรมาธิการเสียงข้างมาก กำหนดให้อยู่ต่อไปจนครบวาระ 9 ปี ซึ่งเรื่องนี้มี สนช.ส่วนใหญ่สนับสนุน อาทิ นายสมชาย แสวงการ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ นายธานี อ่อนละเอียด เป็นต้น ขณะเดียวกันกรรมาธิการฝั่ง กรธ. ก็ขอสงวนคำแปรญัตติ ไม่เห็นด้วย

นอกจากนี้ ยังมีมาตราที่น่าสนใจ อาทิ มาตรา 100 ที่กำหนดให้ผู้อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสต้องแสดงบัญชีทรัพย์ ต่อ ป.ป.ช. ด้วย และ มาตรา 104 กำหนดยกเลิกการเปิดเผย ภาพถ่ายทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง