ต่างประเทศ
จีนสั่งรื้อถอนสตูดิโอ 'อ้ายเว่ยเว่ย' ศิลปินเพื่อประชาธิปไตย
อ้ายเว่ยเว่ยระบุว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนเข้าไปรื้อถอนสตูดิโอผลงานของเขาในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้ผลงานศิลปะของเขาถูกทำลายเสียหาย แต่เขามองว่า ความสูญเสียที่สตูดิโอของเขาไม่ได้สำคัญอะไร เมื่อเทียบกับความทรงจำที่เลือนหายไป บ่งชี้ว่าจีนเป็นประเทศที่ไม่เคยไว้วางใจได้เรื่องระเบียบสังคม นิติธรรม หรือความสามัคคีของประชาชนในการปกป้องสิทธิ เขาจึงไม่สนใจที่สตูดิโอถูกรื้อถอน เพราะมีสิ่งที่ถูกทำลายอย่างรุนแรงและกว้างขวางกว่านี้มากในสังคมที่ถดถอยและไม่เคารพมนุษย์
ด้านผู้ช่วยของอ้ายเว่ยเว่ยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่า สัญญาเช่าอาคารสิ้นสุดลงตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ 'เป็นไปไม่ได้เลย' ที่จะขนย้ายของออกได้ทันเวลา เนื่องจากมีผลงานศิลปะอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ สำนักข่าว AFP ยังรายงานว่า ทางการจีนได้รื้อถอนอาคารบ้านเรือนในย่านใกล้เคียงกับสตูดิโอของอ้ายเว่ยเว่ยในกรุงปักกิ่ง เพื่อนำไปพัฒนาพื้นที่ ขณะที่สำนักข่าว AP ระบุว่า ช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนทำลายอาคารบ้านเรือนบริเวณชานเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
เมื่อปี 2011 สตูดิโอของอ้ายเว่ยเว่ยในนครเซี่ยงไฮ้ก็ถูกทำลาย ซึ่งในครั้งนั้น อ้ายเว่ยเว่ยก็ระบุว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนเช่นกัน
นอกจากนี้ อ้ายเว่ยเว่ยกล่าวต่อว่า การทุบทำลายอาคารที่มีอยู่เพื่อสร้างขึ้นมาใหม่เกิดขึ้นอยู่ในทุกเมือง แต่นโยบายนี้มีขึ้นเพื่อกำจัดแรงงานต่างด้าวออกจากกรุงปักกิ่ง การปรับพื้นที่ที่มีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงสังคมที่ละเมิดสิทธิแรงงานต่างด้าว เพราะคนเหล่านี้ไม่เคยมีความมั่นคงในชีวิตทั้งเรื่องที่อยู่อาศัยและความช่วยเหลือทางกฎหมาย ในขณะที่แรงงานต่างด้าวต้องพึ่งพากฎหมายที่ปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พวกเขากลับอยู่ในสังคมที่พวกเขาไม่มีโอกาสพูดถึงปัญหาอย่างเสรีบนหน้าสื่อ นี่จึงไม่ได้เป็นเพียงการทำลายสตูดิโอเท่านั้น แต่เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนมากกว่า
อ้ายเว่ยเว่ยย้ำว่า ขณะนี้ มีคนเข้าใจผิดว่ามีการรื้อถอนสตูดิโอศิลปะเพียงหนึ่งแห่งเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว มีการรื้อถอนบ้านของแรงงานต่างด้าว และมักดำเนินการรื้อถอนในช่วงกลางคืน แรงงานเหล่านี้มักถูกไล่ออกจากบ้าน ข้าวของส่วนตัวถูกทำลาย ทำให้แรงงานต่างด้าวเป็นคนไร้บ้าน หรือถูกจับกุมเพราะพยายามขัดขวางการรื้อถอนอาคาร โดยเขามองว่าจีนไม่มีระบบยุติธรรมที่อิสระและไม่มีสื่ออิสระอยู่เลย จึงไม่มีใครได้ยินเสียงของคนเหล่านี้
อ้ายเว่ยเว่ยเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมากในจีน และเป็นผู้ออกแบบสนามกีฬา 'รังนก' ที่ใช้สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง และต่อมา หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในมณฑลเสฉวน เกิดเหตุอาคารบ้านเรือนและโรงเรียนของรัฐบาลถล่มทับเด็กหลายพันคน อ้ายเว่ยเว่ยจึงได้กลายเป็นปากเป็นเสียงให้กับครอบครัวผู้ประสบภัย โดยเขาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนว่าเข้าข่ายทุจริตการก่อสร้างอาคาร ทำให้อาคารโรงเรียนที่ควรจะมีความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนในระดับหนึ่งพังทลายลงมาง่ายๆ เหมือนเต้าหู้
หลังจากนั้น อ้ายเว่ยเว่ยยังได้วิพากษ์วิจารณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนไปจนถึงการคอร์รัปชันของรัฐบาลจีน จนกระทั่งปี 2015 เขาได้ลี้ภัยไปอยู่ที่เยอรมนี และยังคงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนต่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
