ไม่พบผลการค้นหา
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเรียกร้องให้เมียนมาปล่อยให้มีการสอบสวนกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวโรฮิงญาอย่างเป็นอิสระ พร้อมยอมรับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาในยะไข่ ถือว่าเลวร้ายอย่างมาก

นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหลังการพบกับนางอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมา และพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ที่กรุงเนย์ปิดอว์ ว่าสหรัฐฯต้องการให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบการละเมิดสิทธิชาวโรฮิงญาในยะไข่ และสหรัฐฯยังคงอยู่ระหว่างการประเมินว่าจะใช้คำว่า "ลบล้างเผ่าพันธุ์" อธิบายสิ่งที่รัฐบาลเมียนมาทำกับชาวโรฮิงญาเหมือนที่สหประชาชาติใช้หรือไม่

นอกจากนี้ นายทิลเลอร์สันยังยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาที่ต้องหลบหนีจากยะไข่ไปยังบังกลาเทศ เป็นสิงที่เลวร้ายอย่างมาก และเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดที่เมียนมาเผชิญ หลังการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม นายทิลเลอร์สันยืนยันว่าการคว่ำบาตรเมียนมาเพื่อกดดันเรื่องนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ เพราะสหรัฐฯต้องการสนับสนุนเมียนมาให้เปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนต่อไป

Myanmar US_Rata.jpg

นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบกับนางอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมา โดยประเด็นที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือการหารือเรื่องการแก้ปัญหาโรฮิงญา

ขณะเดียวกัน นายทิลเลอร์สันก็ประณามการโจมตีตอบโต้ทหารพม่าของกลุ่มกองกำลังกู้ชาติโรฮิงญาอาระกัน หรือ ARSA ว่าเป็นสิ่งที่สหรัฐฯไม่สามารถยอมรับได้

นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่ ARSA โจมตีทหารพม่าเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา นำไปสู่การปราบปรามระลอกใหญ่ในรัฐยะไข่ มีผู้อพยพลี้ภัยออกนอกประเทศไปยังบังกลาเทศแล้วกว่า 600,000 คน มีรายงานว่าทหารพม่าเผาหมู่บ้านของชาวโรฮิงญา ไล่ยิง และข่มขืนประชาชน รวมถึงสังหารเด็กทารก ทำให้สหประชาชาติระบุว่ารัฐบาลเมียนมากำลังลบล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญาออกจากประเทศอย่างเป็นระบบ