ไม่พบผลการค้นหา
กรมควบคุมโรค เฝ้าระวังหมอกควันภาคเหนือใกล้ชิด พบพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองสูงกว่ามาตรฐานหลายพื้นที่ เตือนกลุ่มเสี่ยงระวังป่วย 4 กลุ่มโรค แนะสวมหน้ากากหากจำเป็นต้องอยู่กลางแจ้งหรืออยู่นอกอาคาร ขณะที่ จ.เชียงใหม่ หมอกควันยังทึบ PM10 ลดหลังเกิน 3 วันติด ส่วน PM2.5 สูงกว่ามาตรฐาน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ทำให้สภาพอากาศในช่วงนี้ร้อนและแห้งแล้งมากขึ้น จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าได้ง่าย ประกอบกับมีการลักลอบเผาในที่โล่ง ดังนั้นปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือจึงยังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน รายงานสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือ PM10 ของวันที่ 18 มีนาคม 2561 รายงานว่า ตำบลแม่ปะ จังหวัดตาก และ ตำบลช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีค่าสูงกว่ามาตรฐานอยู่ที่ 140 และ 125 ไมครอน ตามลำดับ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ค่าฝุ่นละอองในอากาศ หากมีค่ามากกว่า 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพง่ายกว่าคนทั่วไป คือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นต้น กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ หากจำเป็นต้องอยู่นอกอาคารควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการสูดละอองหมอกควันเข้าปอด รวมถึงประชาชนควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคารเป็นเวลานาน ปิดประตูหน้าต่างไม่ให้ควันไฟหรือหมอกควันเข้าในอาคาร

สำหรับอันตรายของฝุ่นละอองหมอกควันที่เกิดจากการเผาป่า เผาขยะ เผาวัชพืช ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความเสี่ยงป่วยจาก 4 กลุ่มโรค ได้แก่ 1.โรคทางเดินหายใจ 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคตาอักเสบ และ 4. โรคผิวหนังอักเสบ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต้องหมั่นติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง รวมถึงมีการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม  

ส่วนวิธีการป้องกัน ให้ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด หมั่นทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก และสวมหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ เช่น N95 โดยปิดบริเวณปากและจมูก ส่วนกรณีที่ขับขี่ยานพาหนะในช่วงที่มีหมอกควันมาก ทัศนะวิสัยไม่ดี ควรเปิดไฟหน้ารถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

จ.เชียงใหม่ หมอกควันยังหนาทึบ PM10 ลดลง หลังเกิน 3 วันติด

สภาพอากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาอย่างชัดเจน โดยช่วงก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 16-18 มี.ค.61 พบว่าผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. เกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่องกัน 3 วัน ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าได้ 121,124 และ 125 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ ขณะที่วันนี้วัดค่าได้ 97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้ ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศตำบลช้างเผือกและตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ยังมีการตรวจวัดและรายงานผลการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วย โดยวันนี้มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. อยู่ที่ 65 และ 62 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วนให้งดและควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิด รวมทั้งหากสถานการณ์รุนแรงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเลี่ยงการออกทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน