ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวสรุปภาพรวมการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 พร้อมด้วย สส.จากพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเป็นธรรม, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ที่จะมีการลงคะแนนในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. วันนี้
โดยชัยธวัช กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ประชุมหารือกันถึงความเห็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฉบับนี้ เพราะฝ่ายค้านเห็นว่า ไม่ได้สะท้อนว่ารัฐบาลกำลังแก้ปัญหาสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่ทางรัฐบาลพร่ำพูด หรือจะเป็นวิกฤตที่ทุกคนยอมรับว่า สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ อย่างวิกฤตสิ่งแวดล้อม PM2.5 หรือปัญหามลพิษที่รั่วไหล, วิกฤตเด็กเกิดน้อย และวิกฤตผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นเป็นต้น
พร้อมย้ำว่า รัฐบาลทำร่างงบประมาณที่ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนอกจากจัดตั้งงบประมาณไม่ได้สัดส่วนกับความรุนแรงของปัญหาแล้ว ยังพบการสอดไส้งบไม่ตรงปก ไม่ตรงแผน โดยงบประมาณที่ควรจะบรรจุไว้กลับไม่มี และงบที่ควรจะมีกลับมี และยังมีการจัดสรรงบไว้ไม่เพียงพอในยามที่จำเป็น ขณะเดียวกันยังประมาณการรายได้เกินจริง มุ่งแต่จะใช้กลไกนอกงบประมาณ โดยไม่คำนึงถึงภาระทางการคลังในอนาคต
ชัยธวัช กล่าวอีกว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมาในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณผู้แทนราษฎร พรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถาม และข้อเสนอแนะกับรัฐบาลมากมาย แต่สิ่งที่คณะรัฐมนตรีชี้แจงหลายครั้ง เป็นคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม บางคำถามก็ไม่มีคำตอบจากรัฐมนตรี บางคำชี้แจงก็แสดงให้เห็นถึงการขาดวุฒิภาวะ หรือแม้กระทั่งให้ข้อมูลที่บิดเบือน สุดท้ายก็ตอบคำถามที่ชงกันเองในพรรคเดียวกัน
ย้ำว่ารัฐมนตรีบางกระทรวงไม่แม้แต่จะให้เกียรติเงินภาษีของพี่น้องประชาชนด้วยการลุกขึ้นมาชี้แจงให้คำตอบแก่สภาผู้แทนราษฎรด้วยซ้ำ ด้วยเหตุดังกล่าวพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงมีมติว่า จะลงมติไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฉบับนี้
จากนั้นประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 นี้สะท้อนให้เห็นว่าไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศชาติได้ เหตุหลัก ๆ หลากหลายเรื่อง เช่น เอลนิลโญ มีบ้างหรือไม่ที่จะดูแลใส่ใจสถานการณ์ระหว่างประเทศของโลก งบประมาณฝนหลวงมีเพียง 300 กว่าล้านบาท แล้วจะแก้ปัญาวิกฤติได้อย่างไร นักบริหาร ต้องมองไกล งบแข่งขันก็เช่นกัน หากยังเป็นแบบนี้ไม่สามารถดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน เพิ่มคุณภาพชีวิต ทั้งภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรมก็ตกต่ำ แรงงานต่างด้าวเข้ามาเยอะ เกือบทุกหย่อมหญ้า
ดังนั้นความยั่งยืนของประชาชนต้องบูรณาการ ยาเสพติดที่มีอยู่ทุกกระทรวงทุกกลุ่ม แต่ไม่สามารถแก้ได้ ดังนั้น ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ต้องบูรณาการทั้งผู้เสพและผู้ขายให้ชัดเจน เชื่อว่าสื่อมวลชนมองออกว่าวิกฤติของประเทศนี้เกิดจากอะไรบ้าง นักการเมืองก็มองออกว่าสามารถแก้ได้อย่างไร ในฐานะฝ่ายค้านสิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเห็นด้วยและสนับสนุน แต่สิ่งไหนทำแล้วประชาชนไม่มีความสุข หรือชีวิตความเป็นอยู่ไม่ดีขึ้น ก็ไม่สนับสนุน
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ประชุม สส. และเห็นพ้องว่าไม่สามารถรับหลักการได้ หลายคนได้อภิปรายและฝากคณะกรรมาธิการ 72 คนว่า ขอให้ไปแก้ไขและดูแล แต่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ สส. เข้ามาดูแลได้ยาก ดังนั้นวันนี้ ขอขอบคุณพรรคฝ่ายค้นทุกพรรค และสื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนฝ่ายค้านก็ช่วยกันอย่างเต็มที่
ในขณะที่กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ยืนยันอีกครั้งว่า การตัดสินใจของพรรคฝ่ายค้านคือเสียงสะท้อนของประชาชนหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงจากการบริหาร 9 ปีที่ผ่านมา โดยจะไม่รับร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพราะยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างตั้งใจจริงของรัฐบาลชุดนี้ ที่นำโดยเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะเปลี่ยนประเทศชาติไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพ ในการจัดการงบประมาณ ส่วนจะมีบทลงโทษอย่างไร หากโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ไม่มีบทลงโทษ เพราะว่าแต่ละพรรคมีการพูดคุยหารือกันแล้ว
ส่วนทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีเอกภาพ ไม่มีการแตกแถวใช่หรือไม่ ประมวล กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการ ประชุมเมื่อวันที่ 2 ซึ่งมติของพรรคก็คือไม่รับหลักการ และเมื่อวานก็มีการประชุมอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันว่า สส.25 คนของพรรค จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน แต่ขอเรียนว่าขณะนี้มี สส. ของพรรค ป่วยอยู่ 1 คน เพราะอาจจะทำให้เสียงโหวตไม่ครบ 25 เสียง จึงขอแจ้งสื่อมวลชนไว้ก่อน เกรงว่าจะเข้าใจผิด ทำให้ชัยธวัช ถึงขั้นแซวว่า ป่วยรักษาตัวอยู่ที่ชั้นไหน
จากนั้นชัยธวัช กล่าวว่าอย่าเพิ่งไปกังวลล่วงหน้า เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่มีมติออกมา เพราะฉะนั้นเชื่อว่าเป็นเอกภาพแน่นอน หากมีเสียงแตกในพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะทำอย่างไร ชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปกังวล เพราะแต่ละพรรคพูดคุยกันแล้ว ยืนยันว่าไม่มีเสียงแตก เพราะอภิปรายกันถึงขนาดนี้แล้ว แต่ก็ต้องขอบอกว่า แนวโน้มร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 คงจะผ่าน
เพราะฝ่ายค้านมีเสียงในสภาน้อยกว่า ฝ่ายรัฐบาล แต่ขอย้ำว่าเป็นการแสดงออกถึงจุดยืน และท่าทีของฝ่ายค้าน ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อร่าง พ.ร.บ.งบฯ ฉบับนี้ เพราะเราอยากเห็นร่าง พ.ร.บ. มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญจริงๆ ซึ่งก็หวังว่าร่าง พ.ร.บ. แบบนี้ จะเป็นฉบับสุดท้าย และกลางปีก็จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 68 อีก หวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น ที่จะจัดทำร่างงบประมาณออกมา ที่ไม่สะท้อนกับเป้าหมายรัฐบาลเช่นนี้อีก
ส่วนเรื่องมองการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งแรกอย่างไร ชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ได้ประสานงานไปที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะมีการนัดหมายประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ ช่วงกลางสัปดาห์นี้ เพื่อวางแผนงาน และเป้าหมายร่วมกัน เพื่อให้พรรคฝ่ายค้านเป็นเอกภาพ และทำงานตามความคาดหวังของประชาชน
สำหรับได้ประเมินภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้านไว้อย่างไรบ้างนั้น ชัยธวัช กล่าวว่า ก็มีความเห็นหลากหลาย หลายส่วนก็มีคำชื่นชมว่า ในการอภิปรายที่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง และเป็นข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ มีทั้งข้อวิพากษ์วิจารณ์ และข้อเสนอแนะ แน่นอนว่าหลายคนคงรู้สึกว่าการอภิปรายครั้งนี้ของฝ่ายค้าน ไม่ได้ดุเดือด ก็ต้องขอบอกว่าเป็นการอภิปรายร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ซึ่งต้องเป็นการอภิปรายที่เน้นข้อมูล ไว้รอดูการอภิปรายที่ดุเดือดกว่านี้ในอนาคต