“บางคนเชื่อว่านี่คือภาพยนตร์ฮอลลีวูด และคาดหวังผลลัพธ์ในตอนนี้ มันไม่ใช่” เซเลนสกีระบุในการให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว BBC "สิ่งที่เป็นเดิมพันคือชีวิตของผู้คน"
ยูเครนระบุว่าในการโจมตีตอบโต้นั้น กองกำลังยูเครนได้ยึดคืนหมู่บ้าน 8 แห่งในตอนใต้ของซาปอริซเซีย และพื้นที่ทางตะวันออกของโดเนสตก์ โดยเซเลนสกีกล่าวว่า การผลักดันทางทหารไม่ได้ดำเนินไปอย่างง่ายดาย เนื่องจากพื้นที่ 200,000 ตารางกิโลเมตรของยูเครน ถูกฝังระเบิดเอาไว้โดยกองกำลังรัสเซีย
“ไม่ว่าบางคนอาจต้องการอะไร รวมถึงความพยายามที่จะกดดันเรา ด้วยความเคารพ เราจะรุกเข้าสู่สนามรบในแบบที่เราคิดว่าดีที่สุด” เซเลนสกีกล่าวเสริม
ประธานาธิบดียูเครนเน้นย้ำถึงความจำเป็น ที่ยูเครนจะต้องได้รับการประกันความปลอดภัยจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) แต่กล่าวว่าท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายของยูเครนคือการเป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตร NATO อย่างไรก็ดี เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ระบุอย่างชัดเจนในสัปดาห์นี้ว่า องค์การไม่มีแผนใดเพื่อออกคำเชิญไปยังยูเครน ในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเดือนหน้าในลิทัวเนีย
เซเลนสกียังกล่าวถึงจุดจบของสงครามว่า "ชัยชนะในสนามรบเป็นสิ่งจำเป็น" และยูเครนจะไม่มีวันนั่งลงพูดคุยกับใครก็ตาม ที่ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของรัสเซีย และถ้าหากรัสเซียยังคงอยู่ในดินแดนของยูเครน “ไม่ว่าเราจะบุกโจมตีตอบโต้ไปไกลแค่ไหน เราจะไม่เห็นด้วยกับความขัดแย้งที่เยือกเย็น เพราะนั่นคือสงคราม นั่นคือการพัฒนาที่ไร้อนาคตสำหรับยูเครน”
รัสเซียประกาศเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า กองทัพรัสเซียได้เคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีไปยังเบลารุส ในขณะที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เตือนว่าคำขู่ของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นความจริง
ในขณะเดียวกัน เซเลนสกีได้กล่าวถึงคำขู่ของปูตินว่า “ปูตินเป็นอันตรายต่อเราตั้งแต่ปี 2557 เมื่อเขายึดครองดินแดนแรกของเรา” ประธานาธิบดียูเครนกล่าว “เขาจะพูดเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ผมไม่คิดว่าเขาพร้อมที่จะทำ เพราะเขากลัวชีวิตของเขา เขารักมันมาก แต่ไม่มีทางที่ผมจะยืนยันได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับบุคคลที่ไม่อยู่กับความเป็นจริง ซึ่งในศตวรรษที่ 21 ได้ทำสงครามเต็มรูปแบบกับเพื่อนบ้านของพวกเขา"
ที่มา: