จำนวนชาวต่างชาติที่ย้ายเข้ามาทำงาน หรือศึกษาต่อในจีนแผ่นดินใหญ่ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโมเมนตัมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น และเติบโตอย่างรวดเร็ว
ชาวต่างชาติหลายคนย้ายที่ทำงานมาพร้อมกับครอบครัว พวกเขาต้องปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ โดยก่อนหน้านี้ พ่อแม่หลายคนมักส่งลูกเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนานาชาติ เพราะมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมที่ต้องปรับตัวน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม หนึ่งเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นสำหรับชาวต่างชาติคือ พวกเขาหันมาส่งลูกเรียนโรงเรียนรัฐ หรือโรงเรียนท้องถิ่น ร่วมกับเด็กๆ ชาวจีนทั่วไปมากขึ้น
สาเหตุหลักๆ คือพวกเขาต้องการให้ลูกได้เรียนภาษาจีนแมนดาริน และใช้มันในชีวิตประจำวัน เพื่อได้ภาษาจีนที่แข็งแรง และเป็นจีนสำเนียงแท้ โดยผู้ปกครองเชื่อกันว่า อนาคตลูกๆ จะได้ใช้มันในการทำงานอย่างแน่นอน เมื่อดูจากภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งปัจจุบันจีนถือเป็นผู้นำไม่แพ้ชาติตะวันตก
นอกจากนี้ การเรียนการสอนด้านวิชาการในจีน เข้มข้นกว่าในประเทศตะวันตกมาก เมื่อเทียบกันแล้ว ลูกของพวกเขาจะมีความแข็งแรงในวิชาสายวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์มากกว่าเด็กในประเทศตะวันตกที่อายุไล่เลี่ยกัน
กลอเรีย ครอว์ฟอร์ด ซึ่งเปิดบริษัทเทคโนโลยีการศึกษาร่วมกับสามีของเธอ เทอร์รี ครอว์ฟอร์ด ในกรุงปักกิ่ง บอกว่า เธอส่งลูกชายของเธอ เทรย์ ครอว์ฟอร์ด ศึกษาในโรงเรียนท้องถิ่น เพื่อให้เขาฝึกฝนภาษาจีน และเรียนในระบบการเรียนการสอนที่สร้างวินัยให้กับลูกชายของเธอ ปัจจุบัน เทรย์เป็นเด็กต่างชาติคนเดียวในห้องเรียนชั้นมัธยมปลายที่มี 39 คน
"ในระดับประถม โรงเรียนท้องถิ่นจีนจะให้เด็กๆ เรียนพื้นฐานที่แน่นมากในเรื่องภาษา ซึ่งต้องท่องจำเยอะมาก พวกเขาใช้วิธีการสอนภาษานี้กับวิชาอื่นๆ ด้วย เช่น คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเ ทรย์จึงเก่งคณิตและวิทย์กว่าเพื่อนของเขามาก เมื่อเรากลับไปสหรัฐอเมริกาก็เห็นได้ชัดเลยค่ะ มากไปกว่านั้น ฉันคิดว่าวิธีการสอนระบบของจีนที่เข้มงวด มันช่วยอบรมให้เด็กๆ สามารถรับมือกับปัญหาชีวิตได้ดี" กลอเรีย ให้สัมภาษณ์กับ เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์
นอกจากเทรย์แล้ว เธอยังมีลูกอีก 2 คน คือฌอน และมีอา ซึ่งกลอเรียส่งเด็กๆ เรียนโรงเรียนสาธิตประถมจิงเชิงในปักกิ่งทั้งคู่ อีกสาเหตุหนึ่งที่กลอเรียเลือกส่งลูกๆ เรียนโรงเรียนท้องถิ่นทั้งหมด เธอบอกว่าค่าเทอมถูกกว่าโรงเรียนนานาชาติมาก
งานวิจัยชิ้นหนึ่งจากนิวสกูล อินไซด์ มีเดีย ระบุว่า ในปี 2017 มีโรงเรียนนานาชาติในจีนทั้งหมด 734 แห่ง และมีโรงเรียนนานาชาติเปิดใหม่ทุกปีร่วม 60 แห่ง แต่ค่าเล่าเรียนไม่ลดลงเลยแม้ว่าจะมีจำนวนโรงเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม โดยค่าเรียนโรงเรียนนานาชาติในจีนต่อปี เฉลี่ยอยู่ที่ 33,591 เหรียญสหรัฐต่อปี สำหรับเด็ก 1 คน ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าเฉลี่ยที่มากอันดับต้นๆ ของโลก
ทำให้จำนวนเด็กต่างชาติที่เข้าเรียนในโรงเรียนท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ พ่อแม่พยายามผลักดันให้ลูกได้เรียนในโรงเรียนชั้นนำ ซึ่งเก็บค่าเทอมเด็กต่างชาติราว 50,000 หยวน หรือ 250,000 บาทต่อปี นับว่าถูกกว่ากันมาก
อย่างไรก็ตาม การเรียนการสอนในโรงเรียนท้องถิ่นจีน ก็ไม่ใช่ว่ามีแต่ข้อดีเสมอไป เทรย์ ครอว์ฟอร์ด บอกว่า บางครั้งก็เน้นท่องจำมากเกินไป และไม่ค่อยมีภาคปฏิบัติให้ลงมือสักเท่าไหร่ นอกจากนี้ ยังไม่ค่อยเน้นการตั้งคำถาม
ซึ่งมันทำให้ครอบครัวครอว์ฟอร์ดต้องใช้บทสนทนาบนโต๊ะอาหารมื้อค่ำ ในการสอนลูกเกี่ยวกับการเมืองและปรัชญาแบบตะวันตก และตั้งคำถามต่อลูกว่า สิ่งที่เรียนมาในห้องเรียนนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่? เพื่อให้ลูกสามารถรับมือและคิดวิเคราะห์ต่อการเรียนการสอนในโรงเรียน ที่แฝงโฆษณาชวนเชื่อแบบจีนๆ เข้าไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
"เทรย์เป็นเด็กที่ไม่กลัวในการตั้งคำถาม เขาถามครูตลอดว่าทำไมต้องทำอย่างโน้น ทำไมต้องทำแบบนี้ เขาเคยถามว่า ทำไมพวกเขาต้องทำเดินแถวมาร์ชชิ่ง แม้ครูจะให้คำตอบว่ามันเป็นการสร้างความเป็นหนึ่งเดียว แต่คำถามของเทรย์ ก็ทำให้เด็กๆ ในห้องสนใจในการมาร์ชชิ่งน้อยลง" เทอร์รี ครอว์ฟอร์ด พ่อของเทรย์บอก
ทั้งนี้ กลอเรียบอกว่า เธอโชคดีที่ได้โรงเรียนดีและครูที่ดี เพราะครูที่สอนลูกๆ ของเธอ มีความเข้าใจและเปิดกว้าง แต่ก็มีเด็กต่างชาติหลายคนที่ไม่โชคดีอย่างเทรย์และน้องๆ เพราะถูกเลือกปฏิบัติจากลักษณะทางกายภาพที่แตกต่าง และถูกกีดกันออกจากกลุ่ม
ที่มา: