ก่อนหน้านี้ พอล อูเรย์ ชาวสหราชอาณาจักรวัย 45 ปี จากวอร์ริงตัน เชสเชียร์ ซึ่งถูกจับกุมตัวโดยฝ่ายตัวแทนรัสเซีย พร้อมกันกับชายชาวสหราชอาณาจักรอีกรายอย่าง ดีแลน ฮีลีย์ ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมกับ “กิจการด้านทหารรับจ้าง” จากศาลขของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ ที่อ้างตัวว่าเป็นอิสระจากยูเครน
อย่างไรก็ดี เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทางการของพวกตัวแทนรัสเซียประกาศว่า อูเรย์ได้เสียชีวิตลง จากอาการ “ป่วยและเครียด” ก่อนที่ ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน จะออกมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) ว่า ร่างของอูเรย์ถูกส่งคืนมายังฝั่งยูเครนแล้ว และมีการพบร่องรอยว่าอาจเกิดการทรมานต่ออูเรย์ “การกักขังและทรมานพลเรือนเป็นความป่าเถื่อน” คูเลบาระบุ “ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อญาติพี่น้องและคนใกล้ชิดของ พอล อูเรย์ เขาเป็นคนกล้าหาญที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้คน”
“ยูเครนจะไม่มีวันลืมเขาและการกระทำของเขา เราจะแจ้งเรื่องดังกล่าวของอาชญากรรมนี้ต่อทางอัยการ และเอาตัวพวกเขามารับผิดชอบ พวกเขาจะไม่สามารถหลบหนีความยุติธรรมไปได้” คูเลบาระบุ
ตามรายงานขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง Presdium Network ที่อูเรย์และฮีลีย์เคยทำงานอยู่ระบุว่า ชายชาวสหราชอาณาจักรทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออิสระ ซึ่งถูกจับกุมตัวที่ด่านตรวจขณะขับรถไปช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งและลูกของเธออีกสองคน ทั้งนี้ Presdium Network เปิดทำการในยูเครน แต่ไม่ได้ว่าจ้างชายชาวสหราชอาณาจักรทั้งสอง
ในช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา อูเรย์ที่ถูกใส่กุญแจมือปรากฏตัวขึ้นทางโทรทัศน์ของรัสเซีย พร้อมกับเนื้อหาการวิจารณ์รัฐบาลสหราชอาณาจักร และวิพากษ์วิจารณ์การรายงานข่าวของสื่อสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ก่อนที่เดือนต่อมา ดาเรีย โมโรโซวา ตัวแทนจากลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ครอบครองโดเนตสก์ จะได้ออกมาประกาศว่าอูเรย์เสียชีวิต
ลินดา แม่ของอูเรย์ เคยระบุว่าลูกชายของเธอป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งเขาต้องคอยฉีดอินซูลินทุกวัน โดยหลังจากที่เธอทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกชาย เธอเขียนโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า เธอบอกพวกรัสเซียว่า “เขามีอาการป่วยหนัก” ลินดาระบุว่าเธอรู้สึกโกรธมาก ก่อนตั้งคำถามไปยังรัสเซียว่า “คุณปล่อยให้เขาตายไปทำไม ฉันต้องการคำตอบ ทำไมคุณไม่ปล่อยตัวเขา… ฉันเกลียดคุณทุกคน ฉันโกรธไปหมด ฉันโกรธมากๆ… ฆาตกร นั่นคือสิ่งที่คุณเป็น”
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรเรียกตัว แอนดรี เคลิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหราชอาณาจักรเข้าพบ หลังการเสียชีวิตของอูเรย์ โดย ลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้นกล่าวว่า เธอรู้สึก “ตกใจ” กับรายงานการเสียชีวิตของอูเรย์ และรัสเซีย “ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องทั้งหมด”
ที่มา: