วันที่ 27 มี.ค. 2565 ที่โรงแรมดิอิมเพลสน่าน จ.น่าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า จะยื่นโดยเร็ว เพราะเกรงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะยุบสภาก่อนยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ถ้าเกิดเช่นนั้นจะเกิดเดดล็อกทางการเมือง เพราะร่างแก้ไขร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองยังค้างการพิจารณาอยู่ในรัฐสภาขณะนี้อยู่ในกรรมาธิการ ยังถือว่าพิจารณาไม่แล้วเสร็จ เมื่อยุบสภาจะถูกชะงัก ไม่มีการพิจารณา ปัญหาจะถูกตีความว่าจะใช้กฎหมายใดในการเลือกตั้ง ซึ่งจะเกิดเดดล็อก ทำให้รัฐบาลอยู้รักษาการต่อไปได้ ส่วนฝ่ายค้านประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ภาวะวิกฤตทางการเมืองอยู่ที่วิธีคิดของผู้บริหารประเทศ ถ้าคิดสั้นทำร้ายประเทศ จะอันตราย การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นการห้ามยุบสภา เพราะบทเรียนของรัฐธรรมนูญ เมื่อยื่นแล้วนายกฯ จะไม่มีสิทธิยุบสภา  หากยื่นญัตติแล้วจะทำให้การพิจารณากฎหมายลูกแล้วเสร็จได้

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านประเมินยังมีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ติดต่อกันเกิน 8 ปีไม่ได้ หากมีการยุบสภาก่อนอยู่ครบ 8 ปีก็จะอยู่ในอำนาจต่อได้ เพราะอายุของนายกฯ จะไม่นับวาระตอนเป็นรัฐบาลรักษาการ จะเป็นประเด็นพิจารณาด้วย นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ บอกจะยุบสภาหลังจัดงานเอเปค2022 ซึ่งเดือน พ.ย. - ธ.ค. ถ้ายุบสภาฯ จะมีการเลือกตั้งในต้นปี 2566 อยู่ที่ว่าจะเลือกวิธีไหน ถ้าเลือกวิธียุบสภาหลังเอเปค ก็จะอยู่ในตำแหน่งและจัดสรรงบประมาณได้ และการยุบสภาฯ ก่อนครบวาระ จะทำให้ ส.ส.ย้ายพรรคได้สะดวก เพราะสามารถสังกัดพรรคการเมืองก่อนวันเลือกตั้งได้ใน 30 วัน และกฎหมายเลือกตั้งบังคับให้เลือกตั้งอย่างน้อยภายใน45-60 วัน

นพ.ชลน่าน ระบุว่า พรรคฝ่ายค้านอยากจะผลักดันให้กฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายพรรคการเมืองแก้ไขแล้วเสร็จ เพราะไทม์ไลน์จะประกาศใช้เร็วที่สุดในเดือน ก.ค.นี้ อยู่ในชั้นกรรมาธิการถึงเดือน เม.ย.นี้ ก็จะพิจารณาในวาระที่2-3 และต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กระบวนการพิจารณาจะเป็นเดือนกว่าจะผ่านวาระที่3 

ก้ำกึ่งเสียง กมธ.ชี้ขาดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เบอร์เดียวกัน

ส่วนแนวโน้มการหาข้อยุติของบัตรเลือกตั้ง 2 แบบที่พรรคพลังประชารัฐเห็นว่าควรเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบโดยหมายเลขผู้สมัครแตกต่างกัน นพ.ชลน่าน ระบุว่า กรณีแรกกำลังเถียงกันบัตรจะมี 2 ใบหรือไม่ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เจตนารมณ์ให้ใช้บัตร 2 ใบจะกลับไป 1ใบไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนการคำนวณบัญชีรายชื่อจะต้องคิดจากฐาน 100 เท่านั้น ถ้าบิดเบี้ยวต้องยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

ส่วนกรณีที่สอง เมื่อมีบัตร 2 แบบแล้ว จะเป็นหมายเลขเดียวกันหรือไม่ของบัตรเลือกตั้งใน 2 แบบ เพราะกรณีนี้สู้กันหนักมาก เสียงก้ำกึ่งในกรรมาธิการ ไปรอฟังผลในวันที่ 30 มี.ค.นี้ที่จะมีการลงมติว่าจะให้บัตรเลือกตั้ง 2 แบบเป็นหมายเลขเดียวกันทั้งประเทศหรือไม่ 

ถามว่า ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลจะสนับสนุนให้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบเป็นหมายเลขเดียวกันหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่าเท่าที่ฟังพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนหมายเลขเดียวกันทั้ง 2 ใบ และ สาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการสนับสนุน ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ค่อนข้างบวกลบ จะออกไปในทางให้มีหมายเลขแยกกัน ส่วน ส.ว.ไม่ค่อยมีความเห็น เพราะอ้างว่าไม่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ส.ว.มีปัจจัยเกี่ยวข้องเยอะ เพราะ ส.ว.โน้มเอียงไปทางพรรคแกนนำรัฐบาล ตนภาวนาให้ ส.ว.เห็นความสำคัญต่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด ถ้าไม่อคติคิดว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ ส.ว.ก็มีกึ่งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเพราะ ส.ว.บางคนบอกว่าสะดวกทำให้ใช้สิทธิเลือกตั้งง่ายขึ้น