วันที่ 5 ต.ค. 2565 ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เขตวังทองหลาง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงพรรคเพื่อไทยจัดการประชุมโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งและนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เกี่ยวกับกฎเหล็กของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในช่วง 180 วันก่อนสภาฯ ครบวาระ ว่า เรื่องที่นำเสนอบนเวที พรรคจะส่งเรื่องไปยัง กกต.เพื่อให้กกต.ทบทวน เรื่องระเบียบการหาเสียงและข้อห้ามในการหาเสียง โดยเฉพาะประเด็น 180 วันก่อนสภาฯ ครบวาระ กรณีเกิดภัยพิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความลำบากมาก แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่สามารถให้สิ่งของที่มีความจำเป็นกับประชาชนทีเดือดร้อนได้เลย 

ดังนั้น เราดูข้อกฎหมาย ประกาศระเบียบ กกต.ในมุมที่เกี่ยวกับภัยพิบัติ น่าจะมีช่องทางทางกฎหมายที่สามารถออกระเบียบเว้นไว้เฉพาะกรณีที่มีภัยพิบัติ ซึ่งเบื้องต้นพรรคได้ส่งหนังสือไปยัง กกต.แล้ว และขั้นตอนต่อไปจะเสนอร่างแก้ไขระเบียบ กกต. โดยฝ่ายกฎหมายของพรรคต้องเร่งทำ เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอยู่ 

“พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ออกไป กกต.คงรับรู้รับทราบ แต่ถ้าไม่มีหนังสือส่งไปโดยตรงไม่แน่ใจว่า กกต.จะทำหรือไม่ ดังนั้น ต้องทำหนังสือสำทับไปอีกรอบหนึ่ง” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในการสัมมนาวันนี้จะสร้างความมั่นใจในวิธีการปฏิบัติตามระเบียบ ตามกฎหมายของ กกต.ชัดเจนว่าอะไรที่ปฏิบัติได้ อะไรที่ปฏิบัติไม่ได้ วันนี้จะมีการแจ่มชัดในการปฏิบัติ พอเข้าใจอย่างนี้ สิ่งที่ ส.ส.กลัว ซึ่งกลัวมากกว่าพรรคอื่น เพราะอาจจะถูกใส่ร้ายได้ การสัมมนาวันนี้ก็จะทำให้เกิดความมั่นใจ 

นพ.ชลน่าน ระบุถึงกรณีที่ตนเองได้พูดถึงกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคใต้ที่มีจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทย ว่า เราดูว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ปัจจัยในขณะนั้นเริ่มคลายตัว พี่น้องภาคใต้มีความรู้ความเข้าใจเริ่มเปิดใจทุกพรรคการเมืองมากขึ้น สังเกตได้ว่าการเลือกตั้งในปี 2562 มีพรรคการเมืองหลายพรรค ได้ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ พรรคเพื่อไทยเรามุ่งที่จะทำงานหนัก เราตั้งใจส่งทั้งหมด 58 เขต คนบางกลุ่ม บางประเภทที่มีศักยภาพเราอาจเชิญขึ้นมาสู่ตรงกลางเพื่อทำหน้าที่หาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ เราจะมียุทธศาสตร์ภาคใต้โดยเฉพาะ มียุทธศาสตร์พื้นที่เป็นการเฉพาะ เช่น อ.หาดใหญ่ รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

“เราตั้งใจอย่างจริงจัง เพื่อลบล้างคำว่าไม่จริงใจกับพี่น้องชาวใต้ ภาพเหล่านี้ก็จะดีขึ้น และมั่นใจว่าเราจะได้คะแนนนิยม โดยเฉพาะคะแนนบัญชีรายชื่อเรายังมั่นใจ เดือน พ.ย.นี้ จะมีครอบครัวเพื่อไทยลงพื้นที่ภาคใต้ เป้าหมายอยู่ ที่จ.สุราษฎร์ธานี แต่วิธีการจะไปดูอีกครั้งเพื่อให้ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของ กกต.” นพ.ชลน่าน กล่าว

ด้าน ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการสร้างความรู้ความมั่นใจ แต่หลายเรื่องยังเป็นเรื่องน่าสงสัยในรายละเอียดเช่น การวางพวงหรีดดอกไม้สด วางพวงหรีดดอกไม้แห้ง วางได้หรือไม่ วันนี้ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคได้หารือกับฝ่ายกฎหมายได้อย่างเต็มที่ 

ย้ำงูเห่าย้ายพรรค เจอประชาชนลงโทษในสนามเลือกตั้งแน่

ประเสริฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.เกิน 100 ที่นั่ง ว่า ทุกพรรควาดฝันว่าจะได้ ส.ส.จำนวนเท่านั้น เท่านี้ แต่พรรคเพื่อไทยเรียนว่าไม่ประมาทใคร สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้คือ แลนด์สไลด์ไม่น้อยกว่า 250 เสียง ส่วนพรรคอื่นเป็นเรื่องของแต่ละพรรค คงไม่ไปวิจารณ์ ส่วนกรณีที่มีงูเห่าของพรรคเพื่อไทยจะไปเพิ่มเสียงให้พรรคภูมิใจไทยนั้น ก็ไม่แน่ เพราะในอดีตงูเห่าสอบตกทั้งสิ้น ประชาชนเข้าใจดีว่า เมื่อไม่ได้อยู่พรรคเพื่อไทยแล้วก็ไม่มีอุดมการณ์ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ประชาชนจะตัดสินคนเหล่านั้น

“เราไม่ตกใจ คิดว่างูเห่าจะผิดหวังด้วยซ้ำ” ประเสริฐ กล่าว 

ประเสริฐ กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าว คงไม่ถึงขั้นตั้งกรรมการสอบแต่ไปร่วมงานเพราะเหตุใด โดยทราบเบื้องต้นว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยบางคนก็ไปร่วมงานด้วยทุกปี เพราะขณะนี้ใกล้ระยะเวลาเลือกตั้งและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นพรรคคงต้องเรียก ส.ส.คนดังกล่าวเข้ามาชี้แจงต่อไป

เชื่อยุบสภาหลังเอเปคแน่ 90% ลุยซักฟอกไม่ลงมติหลัง 1 พ.ย.

ส่วนการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติในการประชุมรัฐสภาสมัยหน้านั้น นพ.ชลน่าน ระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือร่วมกัน และพรรคก็ได้หารือว่าหลังเปิดสมัยประชุมในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ก็จะยื่นญัตติเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับรัฐบาล โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชน รวมทั้งการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่ยังไม่ครบ 8 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถซักถามในสภาฯได้

เมื่อถามว่าหลังการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค จะมีการยุบสภา หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนตอบมาหลายครั้งและมีความเป็นไปได้จะยุบสภา ร้อยละ 90 เพราะการยุบสภามีเหตุผล 2 เรื่องหลัก คือผู้มีอำนาจได้ผลประโยชน์ทางการเมือง และเรื่องเงื่อนไขทางการเมือง ความต้องการประชาชน ถ้าประชาชนต่อต้านไม่เห็นด้วยกับการอยู่ในตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็จะเป็นตัวเร่งให้มีการตัดสินใจยุบสภาได้เร็วขึ้น 

นพ.ชลน่าน ระบุว่าใจของ พล.อ.ประยุทธ์ คงอยากอยู่ให้ครบเทอมแน่นอน และจะดึงเวลาให้มากที่สุด แต่ด้วยเงื่อนไขเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องจะเป็นตัวกำหนดว่าจะอยู่ครบเทอมหรือไม่

ไม่หวั่น ‘ประยุทธ์’ ดึงอำนาจ ยุบสภา

ถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยกังวลหรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลากยาวไปยุบสภาในเดือน มี.ค. 2566 เพื่อต่อท่ออำนาจให้กับตัวเองอยู่ในตำแหน่ง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถามว่าจะกังวลกับการยุบสภาและรักษาการนายกฯ ยาวต่อไปนั้น เงื่อนไขนี้จะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เราเองกังวลกรณีไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เพราะล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติรับคำร้อง และให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจัดทำคำชี้แจงภายใน 15 วัน จากนั้นจะมีการประชุมดูหลักฐานและข้อกฎหมายเพื่อวินิจฉัย ถ้าศาลเห็นว่าพร้อมก็จะนัดอ่านคำวินิจฉัย ดังนั้นประมาณ 1 เดือนหลังรับคำร้องก็จะทราบผลคำวินิจฉัย ส่วนผลกรณีถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นสาระสำคัญและขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายก็จะตกทั้งฉบับ เงื่อนนี้จะเกิดขึ้นกรณียุบสภาในกรณีถ้าไม่มีกฎหมาย เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ทำ เพราะจะเติมเชื้อไฟกับผู้ไม่เห็นด้วยให้มีพลังมากขึ้น จะเกิดการต่อต้านได้

ประเสริฐ ระบุว่าไม่กังวลหากมีการยุบสภาฯ ในเดือน มี.ค. 2566 เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยเตรียมพร้อมผู้สมัคร และนโยบายไว้แล้ว ถ้าลากยาวถึงเดือนมี.ค. 2566 อาจเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทย เพราะยิ่งอยู่ในตำแหน่งนาน ขณะที่รัฐบาลอยู่ ประชาชนอาจเสื่อมศรัทธารัฐบาล ผลลบกับรัฐบาลได้