ต่างประเทศ
‘อีลอน มัสก์’ ขู่คว่ำดีลทวิตเตอร์ ชี้ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลแอคหลุม
ทนายความของมัสก์เปิดเผยจดหมายเปิดผนึกถึง วีจายา แกดด์ หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย นโยบาย และความน่าเชื่อถือของทวิตเตอร์ว่า การที่ทวิตเตอร์กำลังขัดขวางและกีดกันสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของมัสก์ ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการ เพราะมัสก์มีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดก่อนจะตกลงตามสัญญาซื้อ-ขายกิจการ
ทั้งนี้ มัสก์ต้องการให้ทวิตเตอร์ยืนยันข้อมูลการตรวจสอบบัญชีผู้ใช้งานปลอม ที่อ้างว่ามีน้อยกว่า 5% ว่าเป็นความจริงตามที่บริษัทเคยเปิดเผยหรือไม่ อีกทั้งมัสก์ยังขอสิทธิ์ในการเข้าถึงฐานข้อมูลของทวิตเตอร์ทั้งหมดด้วย
ความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลให้เมื่อเช้าวานนี้ (6 มิ.ย.) หุ้นของทวิตเตอร์ร่วงลงถึง 5% แม้ว่าก่อนหน้านี้สภาพการณ์หุ้นของทวิตเตอร์จะไปได้ดีภายใต้ข้อเสนอซื้อกิจการของมัสก์ที่ให้มูลค่าหุ้นตัวละ 54.20 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,870 บาท) หุ้นที่ปรับตัวลดลงของทวิตเตอร์บ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าการตกลงซื้อ-ขายกิจการครั้งนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี
ด้าน ปารัก อักราวัล ผู้บริหารสูงสุดของทวิตเตอร์คนปัจจุบัน ได้ตอบโต้ผ่านแถลงการณ์ของบริษัทว่า ทวิตเตอร์จะให้ความร่วมมือในการเปิดเผยข้อมูลกับมัสก์ ตามความสอดคล้องกับข้อตกลงในการรวมกิจการเพื่อให้การเจรจาสำเร็จลุล่วง โดยบริษัทจะเดินหน้าปิดข้อตกลงในการรวมกิจการตามราคาและเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้
ก่อนหน้านี้ มัสก์ระบุว่าข้อเสนอซื้อกิจการจะดำเนินต่อไปไม่ได้ จนกว่าทวิตเตอร์จะยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องบัญชีผู้ใช้งานปลอม โดยเขายังคงเชื่อว่าจำนวนของบัญชีผู้ใช้งานปลอมอาจจะมีมากกว่าที่ทวิตเตอร์เคยเปิดเผย และมีแนวโน้มว่าจะมีบัญชีผู้ใช้งานปลอมสูงถึง 90%
นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นบางส่วนได้กล่าวว่าการพักข้อตกลงในครั้งนี้ อาจเกิดจากกรณีที่ผู้ซื้อเกิดเปลี่ยนใจและต้องการให้ทวิตเตอร์เจรจาในราคาที่ถูกกว่า 44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) ตามข้อตกลงในครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้มีการตั้งคำถามว่ามัสก์จะจัดการเงินลงทุนในการซื้อขายกิจการครั้งนี้อย่างไร หลังหุ้นโซเชียลมีเดียพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางสภาพตลาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
จากแถลงการณ์ของทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ระบุว่า อาจมีการระงับการขอเข้าถึงข้อมูลของมัสก์ไว้ก่อน โดยมีการตีความว่าสิทธิ์การเข้าถึงฐานข้อมูลบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาซื้อขายกิจการ
อย่างไรก็ตาม มัสก์มีความมุ่งมั่นอย่างมากตั้งแต่ตนได้ออกมาประกาศว่าจะเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ และจะจัดการกับปัญหาบัญชีผู้ใช้งานปลอมให้ถึงที่สุด ทั้งยังกล่าวว่าเขาจะเปลี่ยนทวิตเตอร์ให้เป็น “อารยธรรมแห่งอนาคต”
ที่มา:
