ไม่พบผลการค้นหา
‘ส.ก.เพื่อไทย’ ดันนโยบายหาเสียงทำได้จริง คิกออฟ ‘กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท’ เริ่ม 1 ต.ค.นี้ เดินหน้าสร้างอาชีพเด็ก-เยาวชนช่วงปิดเทอม หวังเชื่อม ‘1 ครอบครัว 1 Soft power’ เพิ่มรายได้ให้คนกรุงฯ

วิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย และประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 นโยบาย ‘กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท’ จะมีผลบังคับใช้ โดยแต่ละเขตที่ได้ขึ้นลงทะเบียนชุมชนกับ กทม.และผ่านเกณฑ์การคัดเลือก รวมประมาณ 2,000 ชุมชน จากทั้งหมด 4,000 ชุมชน สามารถนำงบประมาณ 200,000 บาทไปพัฒนาพื้นที่ผ่านเขตของตนเองได้ โดยในการอนุมัติการใช้งบประมาณจะมีคณะกรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งภายในชุมชนมาร่วมตัดสินใจใช้งบประมาณแบบมีส่วนร่วม 

นอกจากนี้ ในช่วงปิดภาคเรียนในช่วงเดือนตุลาคมนี้ สภา กทม. ได้หารือร่วมกับผู้บริหาร กทม. และสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สำนักพัฒนาสังคม เตรียมจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้กับเด็กและเยาวชนได้ทำกิจกรรมพิเศษ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียน เพิ่มทักษะ ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ และเพิ่มพูนประสบการณ์ให้มากขึ้นเพื่อการต่อยอดสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว เช่น กีฬา นาฏศิลป์ จับร้อง งานฝีมือ การขายสินค้าออนไลน์ โดยจะจัดกิจกรรมที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เป็นที่แรก สามารถรองรับเด็กและเยาวชนได้ถึง 1,000 คน และในอนาคตจะหาพื้นที่ที่เหมาะสมเพิ่มเติม เช่น ศูนย์สร้างสุขทุกวัน โรงเรียนฝึกอาชีพของ กทม. และจะร่วมกันผลักดันให้โรงเรียนในสังกัด กทม.รวม 437 แห่ง ได้รับบทบาทเป็นโรงเรียนฝึกอาชีพ โดยฝึกอาชีพที่จำเป็นสำหรับอนาคตให้แก่เด็ก ๆ นอกเวลาเรียนปกติ นำร่องเขตละ 1 โรงเรียน และให้เริ่มดำเนินการให้เห็นชัดเจนในช่วงต้นปีงบประมาณที่จะถึงนี้ 

โครงการนี้ถือเป็นการผลักดันนโยบาย ‘437 สถานศึกษา พัฒนาสร้างรายได้’ ที่ ส.ก.พรรคเพื่อไทยได้ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ และยังเป็นโครงการที่จะสอดรับกับแนวนโยบาย ‘1 ครอบครัว 1 Soft power’ ที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศเอาไว้เป็นนโยบายในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะพรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นในศักยภาพทางด้านฝีมือ และความสามารถของคนไทย ที่จะเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนด้วย