ตำรวจไทย สหรัฐฯ และแคนาดา ร่วมกันสอบสวนคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงินผ่านเว็บไซต์ตลาดมืด 'อัลฟ่าเบย์' ซึ่งเป็นแหล่งค้าของเถื่อนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จนสามารถจับกุมผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ดังกล่าวได้ แต่ผู้ต้องสงสัยฆ่าตัวตายในห้องขังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์และไฟแนนเชียลไทม์ส สื่อวิเคราะห์เศรษฐกิจชื่อดัง รายงานว่า นายอเล็กซองโดร กาซ ชาวแคนาดา วัย 25 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ พร้อมภรรยาชาวไทย ถูกตำรวจไทยจับกุมในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงิน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา และนายกาซคือผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ 'อัลฟ่าเบย์' ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิกกว่า 2 แสน 4 หมื่นคน และตำรวจสากล 'ยูโรโพล' คาดว่ามีเงินหมุนเวียนจากการซื้อขายสินค้าเถื่อนผ่านเว็บไซต์อัลฟ่าเบย์ถึงวันละประมาณ 8 แสนดอลลาร์ หรือประมาณ 27 ล้านบาท
อัลฟ่าเบย์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 และถูกเปรียบเทียบว่าเป็นเว็บไซต์อีเบย์ในโลกมืด เพราะมีอาชญากรนำยาเสพติดและตัวยาควบคุมต่างๆ มาเสนอขายให้แก่สมาชิกของเว็บไซต์ รวมกว่า 2 แสน 5 หมื่นชนิด ทั้งยังมีเครื่องมือแฮกข้อมูลออนไลน์ ข้อมูลบัตรเครดิตที่ถูกขโมยมาจากบุคคลอื่น รวมถึงปืนและอาวุธประเภทต่างๆ ขณะที่นายกาซเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ที่ร่วมก่อตั้งและดำเนินการเว็บไซต์ดังกล่าว และเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่ไทยตั้งแต่ปี 2012 และแต่งงานกับภรรยาชาวไทย ซึ่งถูกจับกุมในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดคดีฟอกเงินเช่นกัน
การสอบสวนคดีในครั้งนี้เป็นความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายสิบประเทศ โดยมีรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นโจทก์หลัก เนื่องจากเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติดและยาควบคุมที่ซื้อขายในเว็บไซต์อัลฟ่าเบย์ ส่วนตำรวจไทยสอบสวนคดีนี้ในฐานะคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงินข้ามชาติ โดยนายกาซถูกควบคุมตัวที่ห้องขังในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม และถูกพบเป็นศพโดยใช้ผ้าเช็ดตัวผูกคอตายกับประตูห้องขังในวันที่ 12 กรกฎาคม ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะได้พบกับอัยการเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินเรื่องส่งตัวไปพิจารณาคดีที่สหรัฐฯ แต่ตำรวจไทยยืนยันว่านายกาซฆ่าตัวตาย ขณะที่ครอบครัวของนายกาซไม่ได้ยื่นคำร้องให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม และทางการสหรัฐฯ ไม่ติดใจสงสัยในการตายครั้งนี้
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ไวร์ สื่อด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ระบุว่าการจับกุมนายกาซทำให้เว็บไซต์อัลฟ่าเบย์ปิดตัวลง และสมาชิกจำนวนมากของเว็บดังกล่าวย้ายไปยังเว็บไซต์ตลาดมืดอื่นๆ เช่น ฮานซาและดรีมมาร์เก็ตส์ ทำให้ทั้งสองเว็บต้องปิดปรับปรุงระบบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายประเทศกำลังสืบสวนคดีนี้ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การจับกุมและปิดเว็บไซต์ตลาดมืดต่างๆ เป็นการถาวร
การซื้อขายยาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมายผ่านเว็บไซต์ตลาดมืด มักจะดำเนินการผ่านเครือข่ายออนไลน์ที่ต้องเข้ารหัสเพื่อปิดบังตัวตนสมาชิก ทั้งยังใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบร่องรอยธุรกรรมการเงินได้ และการใช้เงินดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมประเภทนี้ ทำให้หลายประเทศ รวมถึงธนาคารกลางแห่งประเทศไทย ยังไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะออกกฎหมายรองรับสกุลเงินดิจิทัลหรือไม่ แต่การที่ไม่มีกฎหมายรองรับเงินดิจิทัลก็อาจจะส่งผลต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคตได้เช่นกัน เพราะหลายประเทศที่ยอมรับเงินดิจิทัลได้รับประโยชน์จากการลงทุนและการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเงิน หรือ 'ฟินเทค' ไปก่อนหน้านี้แล้ว