จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยในเดือนสิงหาคม มีมากถึง 3,130,000 คน ทำลายสถิติช่วงโลว์ซีซัน สะท้อนค่าเงินบาทแข็งไม่กระทบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากนัก

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยถึง 3 ล้าน 1 แสน 3 หมื่นคน ทำลายสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากกว่า 3 ล้านคนใน 1 เดือน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าว สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 8 ทำรายได้เข้าไทยกว่า 163 ล้านบาท
ด้านนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวถือว่าสูงมากสำหรับช่วงโลว์ซีซัน โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยมากที่สุด คือ นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก ที่คิดรวมกันแล้วมี จำนวน 2 ล้าน 2 แสน 6 หมื่นคน / โดยนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนเกือบล้านคน

นายพงษ์ภาณุกล่าวว่า การที่เงินบาทแข็งค่านั้นไม่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ค่าเงินบาทถ้าเทียบกับเงินดอลลาร์แข็งขึ้นร้อยละ 8.2 แต่จำนวนนักท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นายพงษ์ภาณุกล่าวว่า การท่องเที่ยวจะไม่ได้รับผลกระทบ หากเงินบาทไม่แข็งค่าไปมากกว่านี้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ได้จับตาดูตลาดเงินอย่างใกล้ชิด

ด้านตัวแทนจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 25 เบสิสพ้อยต์ หรือ 0.25 % เพื่อพยุงค่าเงินบาทและทำให้ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกลง สร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2015 ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1.5  และในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในวันที่ 27 กันยายนนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า กนง. จะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่อย่างใด

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้คิดเป็นร้อยละ 12 ของเศรษฐกิจไทย โดยในปีนี้รัฐบาลคาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยประมาณ 35 ล้านคน มากกว่าปี 2016 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว 32 ล้าน 6 แสนคน