เฟซบุ๊กเปิดเผยว่าต้องลบวิดีโอกราดยิงในนิวซีแลนด์ที่ถูกแชร์ไปทั่วโลก มากถึง 1.5 ล้านคลิปภายในเวลา 24 ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ
บัญชีทวิตเตอร์ทางการของเฟซบุ๊กทวีตรายงานความเคลื่อนไหวในการจัดการกับสถานการณ์การแชร์ต่อวิดีโอที่มีเนื้อหารุนแรงบนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก หลังจากการเกิดเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช ของนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 ราย โดยทวิตดังกล่าวระบุว่า เฟซบุ๊กได้ลบวิดีโอกราดยิงในนิวซีแลนด์ที่ถูกแชร์ไปทั่วโลกมากถึง 1.5 ล้านคลิปภายในเวลา 24 ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ
ในจำนวน 1.5 ล้านคลิปวิดีโอที่เป็นภาพเกี่ยวกับเหตุกราดยิงที่น่าสะเทือนขวัญดังกล่าว มีวิดีโอราว 1.2 ล้านคลิปที่เฟซบุ๊กสามารถทำการบล็อกได้ทัน จึงทำให้ไม่สามารถดาวน์โหลดได้สำเร็จ ซึ่งนั่นหมายความว่าคลิปวิดีโอที่ถูกเผยเเพร่ไปแล้วนั้นมีมากถึง 300,000 คลิป และคาดว่าจะมียอดการรับชมจำนวนมหาศาล ซึ่งข้อมูลตรงจุดนี้เฟซบุ๊กไม่ได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเลขของยอดวิวหรือยอดการรับชมนั้นมีเท่าใดกันแน่
การกระทำดังกล่าวของเฟซบุ๊กเกิดขึ้นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือการให้เกียรติเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและครอบครัวของเหยื่อในเหตุการครั้งนี้ ซึ่งการลบวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิ่งนี้ไม่ได้เจาะจงลบเฉพาะเเค่วิดีโอที่มีภาพของผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บที่ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังเป็นการลบและแบนวิดีโออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ แม้จะไม่มีภาพที่น่าสะเทือนใจด้วยก็ตาม ซึ่งหลังจากนี้ทางการของนิวซีแลนด์และผู้บริหารของเฟซบุ๊กจะต้องมีการปรึกษาหารือประเด็นความเหมาะสมของการไลฟ์ในเฟซบุ๊กอย่างจริงจัง