รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2563
Talking Thailand ชวนรำลึกถึง “เสธ.แดง-พล.ต.ขัตติยะ” นายทหารที่ยืนข้างประชาชน และประชาธิปไตย ถูกลอบยิงด้วยสไนเปอร์ เมื่อ 12 พ.ค. 53 ก่อนเสียชีวิตระหว่างการชุมนุมคนเสื้อแดง เพียงแค่ต้องการให้รัฐบาล “อภิสิทธิ์” ยุบสภา
นักวิเคราะห์ Talking Thailand ชวนย้อนภาพที่คนออกมาเรียกร้อง ถูกกล่าวหาว่ามีกองกำลังส่องสุม ทั้งที่ไม่มีอะไร แค่คนมาเรียกร้องประชาธิปไตย
ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว 13 พ.ค.2553 เป็นวันลอบสังหาร พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ท่ามกลางการชุมนุมของกลุ่ม นปช. หลังจากที่ ศอฉ. ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดการเดินทาง ปิดทางเข้าออกการชุมนุม บริเวณราชประสงค์ “เสธ.แดง” ออกเดินตรวจความเรียบร้อย ของแนวบังเกอร์ร่วมกับการ์ด นปช. เพื่อป้องกันการบุกยึดพื้นที่ชุมนุมจากรัฐบาล
กระทั่ง เวลาประมาณ 19.20 น เสธ.แดง ถูกลอบยิง ด้วยอาวุธปืนสไนเปอร์แรงสูง ขณะกำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ บริเวณแยกศาลาแดง จนบาดเจ็บสาหัส จากการถูกยิงจากมุมสูงเข้าที่ศีรษะ บริเวณท้ายทอยด้านขวา ทะลุท้ายทอยด้านซ้าย กลุ่มคนเสื้อแดงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว หลังจากนั้นทางญาติจึงตัดสินใจย้ายไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลในกลางดึกของวันเดียวกัน อาการของ พล.ต.ขัตติยะ อยู่ในสภาพทรงตัวมาตลอด จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ด้วยวัย 59 ปี
ขณะที่ 13 พ.ค.63 น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก รำลึกครบรอบ 10 ปี การจากไปของ เสธ.แดง ในหัวข้อ “มารู้จัก “เสธ.แดง” ทหารไทยที่เสียชีวิต เพราะเลือกยืนอยู่ข้างประชาธิปไตย”
โดยช่วงหนึ่งระบุว่า รู้สึกดีใจ ที่วันนี้คนรุ่นใหม่หันย้อนไปให้ความสนใจกับเหตุการณ์สลายการชุมนุม นปช. ที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อนมากขึ้น เลยอยากขอเล่าถึงทหารผู้หนึ่ง ที่ชื่อ เสธ.แดง ที่ไม่ใช่ผู้บัญชาการทหารบกในปัจจุบัน แต่เป็นทหารไทยที่อยู่ข้างประชาธิปไตย ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
ปี 2553 เสธ.แดง ตัดสินใจก้าวออกมาจากฝั่งของกองทัพ เพื่อมายืนเคียงข้างประชาชนที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ รู้ทั้งรู้ว่าการเลือกทางเดินแบบนี้จะต้องถูกกองทัพลงโทษ ทั้งเป็นอุปสรรคต่อการเลื่อนขั้นเลื่อนยศ ถูกสั่งพักราชการ และมีการชงเรื่องให้ออกจากราชการ และเห็นว่าประชาชนอยู่กันเองในที่ชุมนุมกลางเมือง อาจถูกกองทัพเข้ามาปราบหรือสลายการชุมนุมได้ตลอดเวลา จึงสอนผู้ชุมนุมถึงวิธีการป้องกันตัวเองเพื่อเอาตัวรอด อาวุธที่ใช้มีเพียงไม้ไผ่ ไม้พลอง ทุกอย่างไม่มีอะไรผิดกฎหมาย แต่เพื่อช่วยรักษาชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์