บริษัทสตาร์อัปในแอฟริกาใต้ออกผลิตภัณฑ์ไอศกรีมจากนมของแมลง ระบุนมของแมลงปราศจากแลกโตส กลูเตน เป็นอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพกว่านมทั่วโป
กูเม่ร์ กรับบ์ บริษัทสตาร์ทอัพในเมืองแคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ นำเสนอผลิตภัณฑ์ไอศกรีมที่ทำจากแมลง โดยไอศกรีมดังกล่าวจะใช้น้ำนมจากแมลง หรือ Ento Milk ที่มาจากตัวอ่อนของหนอนแมลงวันลาย (black solider fly) เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งมี 'โปรตีน' คุณค่าทางอาหารสูงกว่านมจากวัวถึง 5 เท่า
กูเม่ร์ กรับบ์กล่าวว่า ไอศกรีมจากนมของแมลงนี้ก็มีรสชาติที่เหมือนกับไอศกรีมทั่วไปทั้งรสช็อกโกแลต พีนัทบัตเตอร์ และคริสมาสต์สไปรซ์แต่สำหรับไอศกรีมที่มาจาก Ento milk นั้นจะมีความเข้มข้นและรสชาติที่ชัดเจนกว่าไอศกรีมทั่วไป เนื่องจาก Ento Milk มีเนื้อของนมที่บางเบากว่านมที่จากสัตว์ ซึ่งจะทำให้ชูรสชาติของไอศกรีมเด่นกว่า
เลห์ เบซซ่า ผู้ร่วมก่อตั้งกูเม่ร์ กรับบ์กล่าวว่า "เราตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งอยู่มีแรงกดดันจากความกังวลในเรื่องสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของสัตว์ และแมลงก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตได้ด้วยตัวมันเอง ซึ่งการทำฟาร์มแมลงนั้นมันจึงเป็นเพียงแค่การเลี้ยงดูเพื่อให้มันเติบโตตามธรรมชาติของมันเท่านั้น เพราะแมลงต้องการน้ำ อาหารและพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการดูแลพวกมัน นอกจากนี้พวกมันยังไม่เป็นสัตว์ที่สร้างมลพิษทางสิ่งแวดล้อมอย่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมื่อเทียบกับปศุสัตว์อื่นๆ"
แมลงเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูงเมื่อเทียบกับขนาดตัวและปริมาณของเนื้อสัตว์อื่นๆ ซึ่งแมลงบางชนิดจะให้โปรตีนมาถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับน้ำหนักของมัน นอกจากนี้แมลงยังเป็นแหล่งไขมันโปรตีน วิตามิน ไฟเบอร์และแร่ธาตุสูง เมื่อเทียบกับปลาหรือสัตว์อื่นๆ
นอกจากนี้แมลงยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายและกรดโอเมก้า 3 ไขมัน เช่น หนอนรถด่วน หรือหนอนไม้ไผ่ มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันไม่อิ่มตัว 6 ชนิดเท่าปลาและมีมากกว่าเนื้อวัวและเนื้อหมูอีกด้วย ขณะที่แมลงบางชนิดอย่างตั๊กแตนก็มีธาตุเหล็กสูงถึง 20 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซื่งสูงกว่าเนื้อวัวที่มีธาตุเหล็กเพียง 6 มิลลิกรัมต่อ100กรัม
ปัจจุบันประชากรทั่วโลกกว่า 2,000 ล้านคนมีการบริโภคแมลงเป็นประจำ และมีแมลงทั่วโลกกว่า 1,900 ชนิดที่สามารถนำมารับประทานได้มีการคาดการณ์อุตสาหกรรมอาหารจากแมลงนั้นจะมีมูลค่าสูงภึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2023