ไม่พบผลการค้นหา
ชายสัญชาติสหราชอาณาจักร 5 ราย ซึ่งถูกจับกุมตัวในพื้นที่โดเนตสก์ ดินแดนถูกครอบครองโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีรัสเซียคอยให้การหนุนหลัง และถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ได้รับการปล่อยตัวแล้ว หลังจากเกิดการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษครั้งใหญ่ระหว่างรัสเซียกับยูเครนเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.)

ลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรออกมาระบุว่า ข่าวดังกล่าวช่วยยุติ “เวลานับเดือนเดือนแห่งความไม่แน่นอนและความเจ็บปวดของพวกเขา” ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียออกมาระบุว่า ตนรับบทเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษระหว่างรัสเซียกับยูเครนจำนวน 10 คน ซึ่งเป็นชาวสหราชอาณาจักร 5 คน

ไอเดน แอสลิน, จอห์น ฮาร์ดิง และ ชอน พินเนอร์ เป็น 3 ใน 5 ชายชาวสหราชอาณาจักร ที่ถูกจับกุมตัวขณะเข้าไปเป็นกองกำลังของยูเครน และถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ซึ่งได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ การปล่อยตัวในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการแลกตัวนักโทษครั้งใหญ่ที่สุดของสงครามยูเครนเท่าที่เคยมีมา ด้วยการปล่อยตัวนักโทษทหารยูเครนกว่า 215 รายโดยรัสเซีย ซึ่งมีผู้บัญชาการกองกำลังอซอฟ ที่คอยปกป้องมารีอูปอลจนนาทีสุดท้ายด้วย

ในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ยูเครนได้ส่งตัวทหารรัสเซียจำนวน 55 ราย เช่นเดียวกันกับการปล่อยตัวนักการเมืองฝ่ายนิยมรัสเซียและมหาเศรษฐีทรงอิทธิพลของยูเครนอย่าง วิกเตอร์ เมดเวชุก ซึ่งถูกตั้งข้อหาการเป็นกบฏ นอกจากนี้ ยังมีภาพเปิดเผยว่านักโทษ 3 รายชาวสหราชอาณาจักร ได้เดินทางมาถึงสนามบินในกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบียอย่างปลอดภัยแล้ว

ซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ผู้ต้องขังถูกย้ายตัวจากรัสเซียไปยังซาอุดีอาระเบียแล้ว และกำลังมีการดำเนินการเพื่อส่งตัวเดินทางกลับประเทศนั้นๆ โดยจากการประกาศอย่างกะทันหันของกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียถึงเรื่องการปล่อยตัวผู้ต้องขัง สร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆ คน รวมถึงครอบครัวของชายทั้ง 3 รายด้วย 

ทั้งนี้ มีความเชื่อกันว่าการปล่อยตัวครั้งนี้ เป็นความคิดริเริ่มส่วนตัวของ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ปกครองประเทศโดยพฤตินัย โดยปัจจุบันนี้ ซาอุดีอาระเบียยังคงรักษาท่าทีต่อความขัดแย้งในยูเครน

แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ แต่ซาอุดีอาระเบียเองกลับมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับฝ่ายบริหารของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียรักษาท่าทีเพื่อไม่ทำให้รัสเซียไม่พอใจตน 

ทั้งนี้ ลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวขอบคุณ โวโลดีเมอร์ เซเลรสกี ประธานาธิบดียูเครน “สำหรับความพยายามของเขาในการปล่อยตัวผู้ต้องขัง และซาอุดีอาระเบียสำหรับความช่วยเหลือ” ทรัสส์กล่าวเสริมอีกว่า “รัสเซียต้องยุติการแสวงประโยชน์อย่างไร้ความปราณีของเชลยศึก และผู้ถูกคุมขังที่เป็นพลเรือนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง”


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/uk-62988234