ไม่พบผลการค้นหา
‘ชัชชาติ’ เยือนเคหะบางบัว ส่งสัญญาน ผอ.เขต ต้องตื่นตัว รับทราบปัญหา ไม่ต้องรอผู้ว่าฯสั่งการ จ่อเปิดสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เชื่อไม่มีปัญหา ประชาชนมีสิทธิรู้

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ชุมชนเคหะบางบัว เขตหลักสี่ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเรื่องการวางท่อระบายน้ำ และปัญหาการจัดการขยะทั้งจากภายในและภายนอกชุมชน โดยมี สมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการ (ผอ.) เขตหลักสี่ และ ตกานต์ สุนนทวุฒิ ว่าที่ ส.ก. พรรคเพื่อไทย ร่วมลงพื้นที่ด้วย

ชัชชาติ.jpg


ชัชชาติ กล่าวยอมรับว่า การลงพื้นที่ทุกวันในช่วงนี้ เป็นการส่งสัญญาณถึง ผอ.เขต ให้กระตือรือร้นลงมาดูและแก้ปัญหาของประชาชน โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ ผู้ว่าฯ ลงมาดูเอง ยืนยันไม่ใช่การคาดโทษ ผอ.เขต แต่เป็นการกระตุ้นให้มุ่งมั่นทำงาน หลังบางปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนไม่มีความคืบหน้า ถือเป็นการปรับวิธีคิด ความผิดพลาดในอดีตเราไม่ว่ากัน แต่ปัจจุบัน ตนเน้นเรื่องชุมชน ตอนนี้ทุกคนอยากจะทำงานให้ประชาชนอยู่แล้ว โดยท้ายที่สุด จะมีกลไกประเมินการทำงานรายปีรายตำแหน่ง พร้อมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการประเมิน ผอ.เขต ผ่านแพลตฟอร์มที่จัดทำไว้ให้ด้วย

ชัชชาติ.jpg

ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ระบุว่าการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เป็นความเห็นของผู้ว่าฯ คนใหม่นั้น ชัชชาติ ระบุว่า ต้องดูอดีตด้วย อย่าโยนมาที่ตนทั้งหมด ตอนนี้อาจจะยังพูดคุยไม่ได้มากเนื่องจากต้องดูรายละเอียดสัญญาก่อน เพราะจะกระทบทางเอกชน โดยส่วนตัว เห็นว่า มีสามประเด็นหลักที่จะต้องพิจารณา คือ ที่มาของหนี้สิน ค่าจ้างการเดินรถ และการต่อสัญญาสัมปทานว่า เหตุใดจึงไม่ผ่านพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 

LINE_ALBUM_220527.jpg

ส่วนจะมีการเปิดสัญญาสัมปทานทันทีที่ กกต. รับรองเลยหรือไม่นั้น ชัชชาติ ตอบว่า ต้องขอดูขั้นตอนก่อน เพราะเข้าใจว่าในสัญญาหน้าแรกระบุไว้ว่าห้ามเปิดเผยสัญญาต่อบุคคลภายนอก แต่เชื่อว่า น่าจะเปิดได้ ไม่มีปัญหา เพราะประชาชนเป็นคนจ่ายค่าสัญญานี้ผ่านค่าโดยสาร ไม่ใช่ กทม. เป็นคนจ่าย ประชาชนมีสิทธิที่จะรู้เรื่องนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกในวันนี้เทียบกับก่อนการเลือกตั้ง ชัชชาติ มั่นใจว่าการจัดทำนโยบาย 200+ ข้อมาถูกทาง เพราะได้สัมผัสกับข้าราชการและประชาชนมากขึ้น คนอ่านนโยบายมากขึ้น เริ่มพูดถึงเยอะขึ้น มั่นใจว่าวิธีนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม แต่ยอมรับว่าปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นถือเป็นปัญหาที่ยากที่สุดเนื่องจากฝังรากลึกอยู่ใน กทม. จึงต้องการพูดคุยกับองค์การต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) เพื่อเอาคนนอกมาช่วยดูด้วยและฉายไฟลงไปในกรุงเทพธนาคม

ชัชชาติ.jpg

ชัชชาติ ระบุถึงความคาดหวังในการทำงานช่วง 2 สัปดาห์แรกว่า ต้องการเดินสายหาพันธมิตร ทั้งองค์การต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) กรมทางหลวง รฟม. ฯลฯ เพื่อจับมือกันเดินไปกับเรา 

“ตอนนี้สนุกกว่าแต่ก่อนมาก เราเห็นแสงสว่างว่าเราไปได้ มีคนพร้อมจะเดินร่วมกับเราเยอะขึ้น ชีวิตมีความหวังมากขึ้น พลังนี้สำคัญนะ” ชัชชาติ กล่าว