พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกระแสข่าวที่ตนกล่าวถึงการยุบสภาในการนัดทานข้าวกับพรรคเล็กเมื่อวาน (14 มี.ค.65) ว่า คำว่ายุบสภา ตนเป็นคนพูดเอง ตนบอกว่าขอให้จบการประชุมเอเปคก่อน รัฐบาลก็ว่างแล้ว ถ้าจะยุบก็ยุบได้ในช่วงนั้น แต่จะยุบสภาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ตนไม่ได้ถามใครมา เป็นความคิดของตัวเอง ส่วนช่วงเวลานั้นจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่ ก็ไม่ต้องดู แต่ช่วงเวลานั้นเหมาะสมที่สุด ช่วงเวลานั้นไม่ยากลำบาก เพราะทุกคนยังให้การสนับสนุนรัฐบาล

ส่วนการคุยกับพรรคเล็กเมื่อวาน ไม่มีอะไร ทุกคนแล้วแต่ผม ส่วนการนัดทานข้าวกับพรรคเล็กวันที่ 17 มี.ค.นี้จะไปกันทุกพรรค แต่ยังไม่เชิญพรรคเศรษฐกิจไทย เนื่องจากยังไม่มีหัวหน้าพรรค แต่ต่อไปหลังพรรคเศรษฐกิจไทยมีการประชุมใหญ่เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคแล้วก็จะเชิญมาร่วมทานข้าวด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทยจะพบกันได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ไม่มีอะไร มีแต่คุณอยากให้เขาทะเลาะกัน เดี๋ยวนี้ไม่ให้ผมทะเลาะกับนายกฯ แล้วเหรอ ส่วนเรื่องกอดกับนายกฯก็ทำปกติ และตนเองก็ดูแลพรรคเล็กมาตลอด ตั้งแต่เริ่มต้น แม้ไม่มี ร.อ.ธรรมนัสก็ไม่เกี่ยว ตนดูแลอยู่คนเดียวมาตลอด ยืนยันพรรคเล็กไม่มีแตกแถว และไม่กลัวเรื่องพวกเขาไปร่วมกับพรรคเศรษฐกิจไทย

ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถามย้อมกลับผู้สื่อข่าวว่ามีชื่อคนลงผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ หลังจากนั้นก็ขึ้นรถ ไม่ตอบคำถามเรื่องมีตัวผู้สมัคร ส.ก. ครบทุกเขตแล้วหรือไม่ และจะสนับสนุนสกลธี ภัททิยกุล เป็นผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่

ยุบ-ไม่ยุบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ทุกคนอยากอยู่แก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลอยากทำงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ทำมาได้ด้วยดีตลอด ได้อยากทำต่อให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ และบวกกับมีการจัดงานประชุมสำคัญอย่างเอเปค ซึ่งรัฐบาลก็อยากทำงานนี้ให้เรียบร้อย และหลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้นในช่วงปลายปี ตนเคยพูดแล้วว่าเรื่องรัฐบาลอยากทำงานที่ต่อเนื่องไปจนผ่านการประชุมเอเปค นี่คือหัวใจสำคัญตอนนี้