ต่างประเทศ
ส่องนโยบาย ‘ยุนซุกยอล’ ว่าที่ ปธน.เกาหลีใต้ การกลับมาของอนุรักษ์นิยมโสมขาว
การกลับมาของยุนภายใต้พรรคพลังประชาชน คือการกลับมาครองอำนาจของพรรคอนุรักษ์นิยมเกาหลีใต้ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา หลังจากอดีตประธานาธิบดีจากฟากอนุรักษ์นิยมคนล่าสุดอย่าง พัคกึนฮเย ถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากการชี้ความผิดในกรณีการทุจริต ก่อนที่ มุนแจอิน ประธานาธิบดีจากฟากเสรีนิยมจะขึ้นปกครองประเทศ ท่ามกลางกระแสการเมืองแบ่งขั้วอย่างหนักของเกาหลีใต้
ยุนกลับมาพร้อมกับความหวังว่าเขาอาจนำแนวคิดอนุรักษ์นิยมให้กลับมารุ่งเรืองในเกาหลีใต้อีกครั้ง เช่นเดียวกันกับการจัดการกับปัญหาราคาอสังหาริมทรัพย์ของเกาหลีใต้ที่พุ่งสูงขึ้นมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ตลอดจนปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกาหลีใต้กำลังท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 รวมถึงความตึงเครียดที่มีต่อเกาหลีเหลือ ซึ่งทำการทดลองปล่อยขีปนาวุธถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ชนะฉิวเฉียด สะท้อนภาพสังคมแบ่งขั้ว
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนชาวเกาหลีใต้ที่มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 44 ล้านคน จาก 52 ล้านคน ได้เดินทางมาหย่อนบัตรกันกว่า 77% จำนวนมากคือคนรุ่นใหม่ที่หันมาตื่นตัวกับปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะปัญหาการว่างงานในวัยรุ่น ค้านกันกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ยุนกลับคว้าคะแนนชัยชนะไปได้อย่างฉิวเฉียดไปไม่ถึง 1% โดยพรรคพลังประชาชนได้คะแนนเสียงคิดเป็น 48.56% จากจำนวนบัตรเลือกตั้งทั้งหมด เบียดกันมากับ อีแจมยอง จากพรรครัฐบาลที่ได้คะแนนตามมาที่ 47.83% อย่างไรก็ดี อีประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ ก่อนแสดงความยินดีต่อยุนพร้อมขอให้ยุนแก้ไขปัญหาการแบ่งขั้วในประเทศ
คนรุ่นใหม่เกาหลีใต้ระหว่างอายุ 20 ถึง 30 ปี คิดเป็นสัดส่วนผู้มีสิทธิออกเสียงในครั้งนี้กว่าหนึ่งในสาม คนรุ่นใหม่จำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับพรรคเสรีนิยมมากกว่าพรรคอนุรักษ์นิยมของยุน อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งครั้งนี้เต็มไปด้วยความลังเลใจเสมือนกับว่าประชาชนจะต้องเลือก ‘ผู้ที่เลวร้ายน้อยที่สุด’ จากข้อกล่าวหาและกรณีอื้อฉาวจำนวนมาก ตลอดจนนโยบายที่ประชาชนหลายฝ่ายมองว่ายังไม่ตอบโจทย์ต่อสถานการณ์ในเกาหลีใต้มากพอ
คนสูงอายุจำนวนมากในเกาหลีใต้ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม คืออดีตนักศึกษาผู้ประท้วงขับไล่เผด็จการในช่วงทศวรรษ 2520 ประชาชนสูงอายุในเกาหลีใต้หลายคนเคยผ่านการปกครองภายใต้เจ้าอาณานิคมญี่ปุ่น ก่อนจะต้องมาเอาชีวิตรอดจากสงครามเกาหลีอีกครั้ง นอกจากนี้ กลุ่มผู้สูงอายุของเกาหลีใต้ยังได้พบกับการเจริญเติบโตทางอุตสาหกรรมของประเทศอย่างรุดหน้า แต่ก็ต้องมาเจอกับการปกครองภายใต้ระบอบเผด็จการอีกครั้ง
ในขณะที่คนรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้เติบโตมากับการโหยหาอัตลักษณ์ของตนเอง ในบริบทที่เกาหลีใต้ได้พัฒนาเศรษฐกิจและประชาธิปไตยจนขึ้นมาเป็นประเทศประชาธิปไตยและประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของเอเชีย บริบทที่แตกต่างกันระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่นี้ ซ้ำเติมให้ปัญหาการแบ่งขั้วทางช่วงวัยร้าวลึกลงสู่ใจกลางสังคมเกาหลีใต้มากยิ่งขึ้น
นโยบายหวังฟื้นเศรษฐกิจ
“ผมจะใส่ใจต่อเรื่องการดำเนินชีวิตของประชาชน ให้สวัสดิการอันอบอุ่นแก่ผู้ยากไร้ และใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศของเราเป็นสมาชิกที่น่าภาคภูมิใจและมีความรับผิดชอบต่อประชาคมระหว่างประเทศและโลกเสรี” ยุนระบุในการหาเสียงของตน
หากไม่นับเรื่องข่าวฉาวและกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางส่วนตัว ตลอดระยะเวลาการหาเสียงของยุนได้มีการนำเสนอนโยบายที่เสนอว่าตนจะให้ความสนใจกับความเป็นอยู่ของประชาชน ท่ามกลางความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ดี ยุนได้เสนอว่าตนจะใช้นดยบายการตลาดนำเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมการจ้างงานในภาคเอกชนมากกว่าการลงทุนในภาครัฐ
นอกจากนี้ ยุนยังเสนอว่าตนจะลดอุปสรรคในการติดต่อภาคราชการต่อบริษัทต่างๆ และยกเลิกกฎระเบียบของอุตสาหกรรมสินทรัพย์เสมือน และตนจะจัดสรรเงินจำนวนกว่า 50 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือธุรกิจรายย่อยและผู้ประกอบการอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการแจกเงินกว่าอีก 43 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.16 ล้านล้านบาท) ด้วย
สำหรับนโยบายด้านภาษียุนเสนอว่าตนจะลดกำไรจากส่วนต่างราคาและภาษีโรงเรือน ตลอดจนเพิ่มธุรกรรมที่อยู่อาศัย พร้อมเสนอให้เพิ่มเกณฑ์ภาษีสำหรับการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลจาก 2.5 ล้านวอน (ประมาณ 67,000 บาท) ในปัจจุบัน ไปเป็น 50 ล้านวอน (ประมาณ 1.35 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยุนเสนอจะยกเลิกแผนภาษีใหม่สำหรับประชาชนที่มีรายได้ 50 ล้านวอนจากการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งกำลังจะประกาศใช้ในปีหน้า และยุนยังได้เสนอการลดภาษีการถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเพิ่มการทำธุรกรรมด้านที่อยู่อาศัยในเกาหลีใต้
ยุนย้ำตลอดการหาเสียงของตนว่า ข้อบังคับด้านทรัพย์สินต่างๆ ของเกาหลีใต้ในปัจจุบันจะต้องถูกผ่อนคลาย และต้องใช้ “หลักการด้านตลาด” เข้ามานำนโยบายต่างๆ เขายังได้มอบคำมั่นสัญญากับประชาชนว่า รัฐบาลของตนจะสร้างบ้านอย่างน้อยเพิ่ม 2.5 ล้านหลังในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งหมายรวมถึง 500,000 หลังในกรุงโซล
ต่อต้านสตรีนิยม และพร้อมป้องปรามเกาหลีเหนือ
ยุนเสนอว่าตนจะยุบกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศ จากข้ออ้างว่าเกาหลีใต้ไม่มีปัญหาเรื่องการเลือกปฏิบัติทางเพศใดๆ เขาย้ำว่าเรื่องเพศในทางการเมืองของเกาหลีใต้มีบทบาทมากจนเกินไปในการฟื้นฟูอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมในประเทศ นอกจากนี้ ยุนยังไม่เห็นด้วยกับการลุกขึ้นมาประท้วงของกลุ่มสตรีนิยมที่มุ่งเ้าโจมตีกลุ่มผู้ชายในเกาหลีใต้ ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นประเทศซึ่งอยู่ภายใต้โครงสร้างปิตาธิปไตยอันรุนแรง
สำหรับเกาหลีเหนือ ยุนระบุว่าตนจะพยายามกลับมาพูดคุยกับเกาหลีเหนือใหม่อีกครั้ง ตลอดจนการที่เกาหลีใต้จะวางยุทธศาสตร์แผนงานที่จะเป็นประโยชน์และรวดเร็วต่อเกาหลีเหนือ ถ้าหากมีการเดินหน้าดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ยุนเสนอให้เสริมการป้องปรามทางการทหาร รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ยุนระบุว่า การจู่โจมเพื่อป้องกันอาจเป็นวิธีเดียวของเกาหลีใต้ในการตอบโต้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกใหม่ของเกาหลีเหนือที่ดูเหมือนว่ามีความพร้อมจะใช้โจมตีได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ ยุนเสนอว่าตนจะสร้างช่องทางการสร้างบทสนทนาสามฝ่ายถาวรระหว่างเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ และสหรัฐฯ ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ยุนระบุว่าตนจะซื้อระบบขีปนาวุธ THAAD จากสหรัฐฯ เพิ่ม เพื่อใช้ต่อต้านการโจมตีจากเกาหลีเหนือ ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงในการตอบโต้ทางเศรษฐกิจจากจีนที่อ้างว่า ระบบเรดาร์อันทรงพลังดังกล่าวสามารถแทรกซึมเข้ามายังชายแดนของจีนได้ ยุนยังได้ระบุอีกว่า แนวนโยบายดังกล่าวจะช่วยให้เกาหลีใต้สามารถ “รีเซ็ต” ความสัมพันธ์กับจีนได้
ยุนจะปรับ “ยุทธศาสตร์อันคลุมเครือ” ทางความสัมพันธ์ทางการทูตของเกาหลีใต้ที่มีต่อสหรัฐฯ และจีน ในขณะที่มีการส่งเสริมการเจรจาด้านความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเรดาร์ THAAD จะไม่ได้มุ่งเป้าไปที่จีนตามความกังวลของรัฐบาลจีน
ยุนย้ำว่าตนจะขยายการปรึกษาหารือด้านการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ เพื่อยับยั้งอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค พร้อมทั้งสนับสนุนหุ้นส่วนไตรภาคีระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น และเข้าร่วมกลุ่ม Quad ที่ปัจจุบันมีสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดียเป็นสมาชิก ทั้งนี้ กลุ่ม Quad เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เพื่อถ่วงดุลอำนาจกับจีนในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
ยุนในวัย 60 ปี จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ แทนตำแหน่งของประธานาธิบดีมุน ที่จะพ้นจากตำแหน่งตามวาระประธานาธิบดีเกาหลีใต้ซึ่งถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญให้อยู่ในเก้าอี้ได้นานเพียงแค่หนึ่งสมัย 5 ปีเท่านั้น ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ายุนจะสามารถพลิกวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในประเทศได้หรือไม่ ท่ามกลางสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีที่ตึงเครียด และยุนอาจจะทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเข้าสู่การเผชิญหน้าที่มากยิ่งขึ้น
ที่มา:
https://www.npr.org/2022/03/06/1083571714/south-korea-election-youth-vote
https://www.insider.com/immigration-to-canada-trending-on-twitter-in-south-korea-trump-2022-3
