ไม่พบผลการค้นหา
"ธรรมนัส" รับสภาพเวทีหาเสียงกร่อย คนหวั้นพายุเห็บไม่รอ 'ป้อม' ทำเวทีเชียงใหม่กร่อย ชี้ ปชช. ยังเสียขวัญ เหตุพายุลูกเห็บวานนี้ ไม่เชื่อผลโพลทำ "บิ๊กป้อม" หล่น 10 อันดับแรกนั่งนายกฯ อ้างโพลวัดแค่หลักพัน

เมื่อเวลา 17.15 น.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประชาชนทยอยเดินทางกลับไม่รอฟังการปราศรัยของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าช่วงนี้เป็นช่วงพายุและได้ตรวจสอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาว่า วันนี้พายุ กำลังจะลงมาอีกครั้ง ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกล ทยอยเดินทางกลับซึ่งตนเข้าใจ เพราะสภาพที่เจอพายุเมื่อวานนี้ขวัญยังเสียอยู่ เมื่อถามว่ามีเท่าไหร่ก็เท่านั้นใช่ไหม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เข้าใจพี่น้อง ประชาชนว่าสภาพอากาศ ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งตนได้แจ้งไปแล้วว่าต้องระมัดระวังในช่วงนี้

"ยืนยันว่า ไม่กระทบกับการ ปราศรัย หาเสียงในช่วงนี้ เราเข้าใจสภาพ เข้าใจประชาชน น้อยก็ไม่เป็นไร แต่เวทีปราศรัยที่จังหวัดเชียงรายมีคนเข้าร่วมประมาณ 10,000 กว่าคน แต่สภาพอากาศร้อน ซึ่งการปราศรัยในภาคเหนือช่วงนี้ค่อนข้างลำบาก อย่างไรก็ตาม จะเดินสายหา เสียงปราศรัยในแต่ละเขต เป็นปราศรัยย่อย"

เมื่อถามถึงการปราศรัยบนพื้นที่ภาคเหนือช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนมั่นใจว่า มีหลายเขตที่จะสามารถนำผู้สมัครของพรรคเข้าสู่สภา เป็นส.ส.ได้ เมื่อถามว่าได้ตั้งเป้าในพื้นที่เชียงใหม่ไว้จำนวนเท่าใดเพราะมีคนบอกว่าเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีเจ้าของแล้วร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่เชื่อทฤษฎีนี้ เหมือนสมัยก่อนที่พะเยาก็บอกว่ามีเจ้าของแล้ว แต่ก็เป็นมา 4 สมัย 16 ปี ซึ่งก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็น และในยุคนี้ปี 2566 เราเตรียมตัวพอสมควร และมั่นใจว่ามีจุดขาย ทั้งนี้ที่เชียงใหม่ที่ผ่านมาให้ผู้สมัครลงพื้นที่อย่างจริงจัง และตนกำลังจะทำโพล ซึ่งก็ต้องรอดูว่าโพลจะออกมาอย่างไร เราจะได้นำมาพิจารณาและแก้ไขต่อไป

เมื่อถามถึงภาพรวมทั่วประเทศจะได้กี่ที่นั่งร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ณเวลานี้ เรามีส.ส.อยู่ 52 คน อย่างคนที่ตนดูแลอยู่ก็มั่นใจว่า ทุกคนจะกลับเข้าสู่สภาได้ ส่วนวัดที่ผู้สมัครเกรด A พรรคก็ทำโพลอยู่เช่นกัน ก็มั่นใจ ว่า เกิน 50 คน 

เมื่อถามถึงกรณีผลสำรวจของนิด้าโพล ที่ระบุว่าพล.อ.ประวิตรไม่ติด 1 ใน 10 อันดับแรก ที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าไม่ได้ดูถูกสถาบันการทำโพล แต่สำหรับ ตนเป็นส.ส.ตลาดล่าง เรารู้ว่าควรจะทำอย่างไรให้ชนะกันเลือกตั้ง สถาบันโพลใช้คน 1-2 พันคนมาพิสูจน์ ผลการตัดสินไม่ได้เพราะฉะนั้นตนไม่สนใจ เดินหน้าต่อ และผู้บริหารพรรคทุกคนก็เห็นตรงกันว่าเราจะเดินหน้าต่อ เรามีความมั่นใจ ในตัวเอง

เมื่อถามถึง ความชัดเจนในการจับมือกับพรรคเพื่อไทยหลังการเลือกตั้ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าเร็วเกินไปที่จะพูดตอนนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมามีหลายคนที่ไปรับประทานอาหารกับพลเอกประวิตร ซึ่งไม่ได้มีการพูดถึงการจัดตั้งรัฐบาล เป็นการคุยเรื่องทั่วไป

เมื่อถามว่าหลายคนมองว่าจะเป็นขั้วใหม่ทางการเมืองร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่ ส่วนจะไปกินข้าวร่วมกับพรรคการเมืองอื่นอีกหรือไม่ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วหัวหน้าพรรคไม่ได้เรียกร้องให้ใครมากินข้าวด้วย

สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน (6จังหวัด ยกเว้น จ.เชียงราย) จำนวน 23 คน ประกอบด้วย

จ.เชียงใหม่

1.นายพจนารถ ศรียารัณย์

2.นางศรีพรรณ เขียวทอง

3.นายพรชัย อรรถปรียางกูร

4.ดร.มนสิชา ภัคดิเมธี

5.นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์

6.นางรัตนประภา ดิศวัฒน์

7.นายบดินทร์ กินาวงษ์

8.นางสาวกุสุมา บัวพันธ์

9.นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ

10.นายนรพล ตันติมนตรี

จ.แม่ฮ่องสอน 

1.นายปกรณ์ จีนาคำ 

2.นายจำลอง ศรีสวัสดิ์ 

จ.ลำปาง

1. นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง  

2. นางจินดา วงศ์สวัสดิ์  

3. นายดาชัย เอกปฐพี  

4. นายสมเกียรติ ตันตระกูล  

จ.แพร่

1.นางสาวอาทิตยา อินนะไชย 

2.นายสุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงษ์ 

3.นางสาวปอรวัลย์ มุดเจริญ 

จ.ลำพูน

1.นายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์ 

จ.น่าน

1.นายสักก์สีห์ พลสันติกุล  

2.นายสกล เนตรใสวรกุล  

3.นายฉัตรชัย จิตตรง

“สนธิรัตน์” ชี้ หาก “ลุงป้อม” นั่งนายกฯ คนถือบัตรรวยขึ้นทันที

สนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ คือพรรคที่สื่อมวลชน นักวิเคราะห์การเมืองทุกสาขา มองแล้วบอกว่าเป็นพรรคที่เหมาะสมเป็นรัฐบาลมากที่สุด วันนี้พรรคเราไม่ได้นำเฉพาะว่าที่ผู้สมัครภาคเหนือมาเท่านั้น แต่วันนี้จะมาตอกย้ำว่าหากพรรคเราได้เป็นรัฐบาลจากการสนับสนุนของพี่น้องประชาชน ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล

พี่น้องที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้ง 14 ล้านคน จะรวยขึ้นทันที พรรคพลังประชารัฐคือเจ้าของบัตรสวัสดิการ เราทำมาตั้งแต่สมัยตนเป็นรัฐบาล และเป็นนโยบายหาเสียงหลักของพรรค เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้พี่น้องประชาชน การเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคประกาศแล้วว่าหากได้เป็นรัฐบาลในฐานะเจ้าของบัตร จะเพิ่มวงเงินจาก 400 บาท เป็น 700 บาท ซึ่งไม่เพียงแค่เพิ่มวงเงินเท่านั้น แต่ยังเพิ่มการใช้งานได้มากขึ้นด้วย เช่น ใช้ซื้อแก๊ส จ่ายค่าสาธารณูปโภค ค่ารถสาธารณะ สามารถสะสมยอดเงินได้ และยังมีเงินประกันชีวิต 2 แสนบาทด้วย 

“ขอขอบคุณพี่น้องชาวเชียงใหม่ และภาคเหนือ ที่มีใจมาร่วมกันผลักดันว่าที่ผู้สมัครเพื่อมาเป็นตัวแทนของพี่น้อง การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบัตร 2 ใบ เชื่อว่าพี่น้องที่นี่อยากได้คนที่พี่น้องรักไปเป็นตัวแทนในรัฐสภา ว่าที่ผู้สมัครที่มาวันนี้คือคนที่อาสามาเป็นตัวแทนให้พี่น้อง ตนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องตัดสินใจเลือกคนที่เขาจะรับใช้เราได้ คนที่จะอยู่กับเรา และเป็นปากเสียงให้พี่น้องได้” นายสนธิรัตน์ กล่าว