วันที่ 9 ก.พ. 2566 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สองเป็นพิเศษ โดยมี ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนทราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยภายหลังเปิดปิดการประชุมได้ จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นกระทู้ถามสดถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า ในตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เราทราบถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 และอันดับมลพิษของประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก และนี่ไม่ใช่ครั้งที่ถูกเทการแก้ไขปัญหาจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในปลายปี 2564 ตนได้ยื่นกระทู้ถามสด และในต้นปี 2565 ก็ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่ถึงวันนี้ 377 วัน ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ยังไม่ได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจ 

จักรพล กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าเสียดาย เสียใจ และเสียความรู้สึกแก่ประชาชนที่ต้องมาเผชิญเช่นนี้ รวมถึงการแก้ปัญหา วิธีทางออก และแหล่งที่มาที่ตนได้บรรจุลงไปใน ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดแล้ว แม้จะมีการรีดว่าเป็นพ.ร.บ.การเงิน หรือพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมฯ แต่มันไม่ตอบโจทย์ เป็นการขยายปัญหาให้ลุกลามไปอีก 

จักรพล ระบุอีกว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังไม่เผชิญปัญหา ในเมื่อทำตัวเป็นที่พึ่งไม่ได้ก็อย่ากระเสือกกระสนทำตัวเป็นรัฐบาลบริหารประเทศฮีก สิ่งเหล่านี้มากไปแล้วกับปัญหาที่เราต้องเผชิญ 

“พ่อแม่พี่น้องต้องเสียสุขภาพ พ่ออุ้ย แม่อุ้ยอยู่บนดอยไม่ได้เพราะหายใจไม่ออก ไม่เหมือนพวกท่าน เนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ที่ตนยื่นไป ท่านไม่ใส่ใจเลย จึงขออนุญาตฉีกเอกสารที่เตรียมมา เพราะปัญหานี้ไม่ได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจจากรัฐบาล” จักรพล กล่าว พร้อมฉีกกระดาษเอกสารที่เตรียมาพูดในสภาฯ หลังรัฐบาลไม่ได้ส่งรัฐมนตรีมาร่วมชี้แจงกระทู้ถามสดในประเด็นดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา จักรพล ได้แถลงเพื่อจี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาฝุ่นพิษว่า ขอเรียกร้องให้สภาหยิบยกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด เข้าสู่การพิจารณา และในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ตนจะพูดถึงเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว โดยจะเน้นย้ำถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากพรรคเพื่อไทยต่อสู้เรื่องนี้มากว่า 3 ปีแล้ว 

‘ปลื้ม’ แนะนายกฯ อย่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ขณะที่ สุรบถ หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายครั้งแรกในสภาหลังได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยช่วงที่ผ่านมา พบว่ากรุงเทพฯ มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 192 มีมลพิษสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งอันตรายต่อทุกคน โดยสาเหตุหลักของฝุ่นพิษมาจากภาคอุตสาหกรรมที่ปล่อยควันเสีย พบค่ามลพิษเกินมาตรฐานโดยที่ไม่มีใครมากำกับดูแล และจัดการกับโรงงานเหล่านี้ได้ รวมถึงยานพาหนะรุ่นเก่าที่ปล่อยให้วิ่งบนท้องถนน และการลักลอบเผาป่า 

สุรบถ กล่าวอีกว่า ปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 นับเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ที่ผ่านมาเคยมีการเสนอหลักการของร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่ยังรอการอนุมัติจากนายกฯ จึงอยากให้เร่งอนุมัติเรื่องนี้โดยด่วนที่สุด เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคน ซึ่งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น