หนึ่งในข้อมูลที่ถูกส่งต่อกันบนโซเชียลมีเดียเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา คือ ภาพของประธานาธิบดีรัสเซียที่อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ (รูปถ่าย) ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือในหลวง ร.9 พร้อมข้อความว่า “รัสเซียยืนหยัดได้ เพราะบุญคุณของ ในหลวงร.9”
ภาพดังกล่าวได้รับการเผยแพร่บนเฟซบุ๊กโดยบัญชีผู้ใช้ 关羽關羽 (กวนอูกวนอู) เมื่อวันที่ 27 ก.พ. พร้อมข้อความว่า “ปูตินกล่าวยกย่อง เพราะในหลวง ร.9 ที่ทำให้รัสเซียยืนหยัดอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน เป็นที่รับรู้ทั่วกันว่าผู้นำโลกมากมาย การยกย่องให้ในหลวงเป็นพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงมีความรู้ความสามารถมากมาย” โดยปัจจุบันนี้ โพสต์ดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว
โพสต์ดังกล่าวได้มีผู้กดไลก์กว่า 4,000 ครั้ง พร้อมด้วยความเห็น 800 ข้อความ และยอดแชร์ 400 ครั้ง ผู้ใช้บางรายแสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างชัดเจนว่ารูปดังกล่าวเป็นรูปจริง ในขณะที่ผู้ใช้บางรายแสดงความเห็นว่ารูปดังกล่าวอาจเป็นรูปปลอม
ทั้งนี้ โครงการของมหาวิทยาลัยฮ่องกงที่ทำงานร่วมกับเครือข่ายผู้สอนด้านข่าวและสารสนเทศในเอเชีย (Asian Network of News & Information Educators - ANNIE) ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงของภาพเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ในโพสต์หัวข้อตรวจสอบข่าวปลอมกรณียูเครนพบว่า รูปดังกล่าวที่ถูกส่งต่อกันเป็นรูปที่ถูกตัดต่อขึ้น
จากการค้นหาข้อมูลของวอยซ์ออนไลน์พบว่า รูปก่อนการตัดต่อเป็นรูปของปูตินที่กำลังถือรูปของผู้เป็นบิดาตนเองอย่าง วลาดิเมียร์ สปิริโดโนวิช ปูติน ในการเฉลิมฉลองชัยชนะของอดีตสหภาพโซเวียตหลังการจบลงของสงครามโลกครั้งที่สอง โดยข้อมูลจากรูปบนสำนักข่าวรอยเตอร์สเปิดเผยว่า ภาพดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นในวันที่ 9 พ.ค. 2558 บริเวณจัตุรัสแดงกลางกรุงมอสโกของรัสเซีย โดยรูปดังกล่าวถูกถ่ายโดย มาซิม เชมีตอฟ จากสำนักข่าวรอยเตอร์ส
อย่างไรก็ดี รายงานของโครงการ ANNIE เปิดเผยที่มาพระบรมฉายาลักษณ์ “พระเสโท” (เหงื่อ) ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยอ้างอิงวิทยานิพนธ์ ‘รูปที่มีทุกบ้าน: ชีวิตทางสังคมของพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9’ ว่า ภาพดังกล่าวถ่ายโดยช่างภาพประจำพระองค์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ก่อนหน้านี้ สื่อบางสำนักของไทยอ้างอิงข่าวปลอมในช่วงการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ถึงข้อความที่กล่าวอ้างว่าเป็นคำกล่าวไว้อาลัยของประธานาธิบดีรัสเซียถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ครั้งสวรรคตเมื่อปี 2559 ว่า “‘มหาราชผู้ยิ่งใหญ่’ ผู้ไม่เคยสู้รบกับใคร แต่สามารถทำให้ทุกคนยกย่องสรรเสริญได้ ทั่วโลกยอมแพ้ได้มีแค่คนเดียว คือ ‘คิงภูมิพล’” ข้อความดังกล่าวถูกส่งต่อครั้งใหญ่อีกครั้งจากเพจเฟซบุ๊กรายการ ‘คุยทุกเรื่องกับสนธิ’ ของ สนธิ ลิ้มทองกุล
อย่างไรก็ดี คำพูดดังกล่าวของปูตินอาจถูกบิดเบือน เนื่องจากการสืบค้นแล้วนั้นไม่มีการพบคำพูดของปูตินใดๆ ที่สอดคล้องกันไปกับสิ่งที่สนธิเผยแพร่ลงบนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวแม้แต่น้อย โดยจากรายงานข่าวของบางกอกโพสต์ถึงการถวายสาสน์สอาลัยของปูตินถึงพระราชวงศ์ไทยในปี 2559 ระบุว่า ปูตินกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นองค์ประธานในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จและมีส่วนในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งตำแหน่งแห่งที่ของประเทศไทยในต่างประเทศ โดยปูตินกล่าวในโทรเลขว่า พระองค์ทรงได้รับ "ความรักอันจริงใจต่อประชาชนและความเคารพอย่างสูงในต่างประเทศ”
นอกจากนี้ รายงานยังได้ระบุว่า ปูตินยังได้ระบุในจดหมายเดียวกันนี้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จะทรงถูกจดจำโดยประชาชนชาวรัสเซีย จากการทรงให้การสนับสนุนมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ
ยังคงมีการส่งต่อข้อมูลข่าวปลอมเพื่อมุ่งโจมตียูเครน และสนันสนุนการรุกรานของรัสเซียที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยมวลชนบางกลุ่มในประเทศ อย่างไรก็ดี รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทวงกลาโหมยังคงวางท่าทีที่ “เป็นกลาง” ในวิกฤตสงครามยูเครน ถึงแม้จะมีหลักฐานเปิดเผยแล้วว่า กองทัพรัสเซียได้สังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ชาวยูเครนไปเป็นจำนวนมากก็ตาม
ที่มา:
https://www.reutersconnect.com/all?id=tag%3Areuters.com%2C2015%3Anewsml_LR2EB590ZAW4S&share=true