ไม่พบผลการค้นหา
ผบ.ตร.บินด่วนลงใต้ รวบแล้ว 2 มือคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ จ.นราธิวาส เร่งขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 7 ราย พร้อมแถลงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดรถไฟพื้นที่สงขลา ออกหมายจับแกนนำ

วันที่ 2 ม.ค. เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงผลการจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหา เกี่ยวข้องคดีลอบวางระเบิดแฟลตตำรวจจังหวัดนราธิวาส และความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดทางรถไฟพื้นที่สงขลา 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อ 22 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 25 นาย และครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บาดเจ็บ 18 ราย แฟลตและบ้านพักทางราชการได้รับความเสียหาย 70 ห้อง และทรัพย์สินส่วนตัวได้รับความเสียหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยต่อสถานการณ์ สั่งการให้เร่งสืบสวนติดตามผู้กระทำผิด และดูแลขวัญกำลังใจตำรวจให้ดี ตนได้สั่งระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก จนพบว่าคนร้ายขับรถยนต์กระบะคันประกอบระเบิด หรือ คาร์บอมบ์ มาจอดภายในบริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ แล้วเดินลงจากรถออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่มารอรับด้านหน้าแล้วหลบหนีไป

ตรวจสอบทางทะเบียนรถยนต์ที่นำมาใช้ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีดำ ทะเบียน กค6961 ตรัง พบว่ามีการโอนขายลอยกันเป็นทอดๆ ตั้งแต่ปี 2564 และ ไซนะ เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้ายก่อนที่จะได้มีการประกาศขายทางเฟซบุ๊ก ต่อมามีคนมาติดต่อซื้อนัด ส่งมอบรถกันบริเวณตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 โดยมีชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับรถมีพยานยืนยันว่า 1 ใน 2 คน ที่มารับรถเป็นฮัสบูเล๊าะ สะนิ 

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ใช้ในการก่อเหตุพบว่าคนร้ายเดินทางออกมาจากพื้นที่อำเภอตากใบ มียานพาหนะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจำนวน 6 คัน ตรวจยึดแล้ว 5 คัน และขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 คน คือ อับดุลมูบิน ลาเต๊ะ และ อุสมัน สะนิ ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันกับพวกก่อเหตุคดีนี้สามารถพิสูจน์ทราบรู้ตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิดแล้ว 9 คน    

ขณะนี้ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีนี้แล้วจำนวน 9 คน ประกอบด้วย 1.ฮัสบูเลาะ สะนิ 2.อับดุลมูบิน ลาเต๊ะ 3.อับดุลมาทิน มามะ 4.นายอุสมัน สะนิ 5.อับดุลฮาฟิซ ดือเระ 6.วาฟี สะปาดี 7.อีซาล สาและ 8.ไซปูรูสมัน มามะ และ 9.มูฮำหมัดฮาฟิส เจะดือราแม 

ซึ่งตำรวจจับกุมได้ 2 ราย ส่วนอีก 7 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

ส่วนคดีที่ 2 ความคืบหน้า "คดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้า" ระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ – ปาดังเบซาร์ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ทำให้ขบวนรถไฟตกราง รางรถไฟ และสินค้าได้รับความเสียหายไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

และกรณีเหตุ วันที่ 6 ธ.ค.65 ขณะเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าทำการเก็บกู้รางและขบวนรถไฟ ได้เกิดระเบิดอีกหนึ่งลูก ทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟ เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย 

จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนถังแก๊ส และชิ้นส่วนองค์ประกอบระเบิดบางส่วน เชื่อว่าเป็นระเบิดแบบเหยียบ โดยที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลอบวางระเบิดแบบเหยียบที่มีการก่อเหตุต่อรางและขบวนรถไฟ ที่มีลักษณะคล้ายกับคดีนี้ มีการออกหมายจับนายอัซมัน เปาะเลาะ กับพวก คนร้ายที่ก่อเหตุในช่วงปี 2564 

ซึ่งจากการเปรียบเทียบวัตถุพยานและแผนประทุษกรรมคดีนี้พบว่า เหมือนกันกับคดีที่ อัซมัน เปาะเลาะ เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้ และจากกรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมตัว จีรศักดิ์ เพ็งเลาะ พร้อมกับอาวุธปืน 4 กระบอก พื้นที่ อำเภอจะนะ เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ผลการซักถามของนายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ ให้การยอมรับว่าก่อนถูกควบคุมได้รับคำสั่งจาก นายอับดุล ให้ตนกับนายอัซมัน เปาะเลาะ สำรวจดูเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ บริเวณบ้านท่าโพธิ์ เพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุ ซึ่งได้มีการชี้จุดไว้ในแผน และได้มีการแจ้งเตือนให้หน่วยเฝ้าระวัง    

นอกจากนี้ จิรศักดิ์ ยังให้การรับว่า กลุ่มเครือข่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มจิรศักดิ์ ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ จังหวัดสงขลา มีจำนวน 17 คน จับกุมแล้ว 2 คน วิสามัญ 4 คน หลบหนี 10 คน รวมทั้งนายอัซมัน เป๊าะเลาะ ที่มีหมายจับ ป.วิ อาญา 18 หมาย คนเดียวด้วย    

สำหรับคดีนี้ก่อนเกิดเหตุมีพยานยืนยันว่าวันเกิดเหตุมีพยานพบเห็นและได้มีการพูดคุยกับนายอัซมันฯ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กับพวก 2 คน ออกจากที่เกิดเหตุก่อนเกิดระเบิดประมาณ 30 นาที

โดยในส่วนของนายอัซมันฯ ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับไว้แล้ว ส่วนกลุ่มขบวนที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป

 ด้าน สนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จ.นราธิวาส ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านร่างกายไปแล้ว จำนวน 46 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 950,000 บาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 65 แบ่งเป็น กรณีเสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 500,000 บาท กรณีบาดเจ็บ จำนวน 45 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท และวันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 46 ราย ทั้งสิ้น 6,146,414 บาท

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า คดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญในการสืบสวนติดตาม รวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และฐานข้อมูลความเชื่อมโยงของคดี จนนำไปสู่การออกหมายจับ ต้องขอบคุณและชมเชยคณะทำงานที่สามารถคลี่คลายทั้ง 2 คดี โดยได้สั่งการขยายผลติดตามผู้กระทำผิดที่ถูกออกหมายจับมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี