นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมด้วย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค และคณะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส จากสถานีนานาเพื่อมาลงพื้นที่หาเสียงที่สยามสแควร์ ช่วยหาเสียงให้กับนายณัฏฐพัชร์ กวินกนกกัลป์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 2 ปทุมวัน - สาทร - บางรัก จากนั้นลงพื้นที่ช่วยนางดวงกมล ดวงสร้อยทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 6 เขตพญาไท - ราชเทวี - จตุจักร (แขวงจตุจักร และแขวงจอมพล) ที่บริเวณสกายวอล์กบีทีเอสสถานีอนุสาวรียชัยสมรภูมิ โดยมีประชาชนบางส่วนร่���มขอถ่ายภาพกับนายสุเทพ

นายสุเทพ ระบุว่า ผลตอบรับดีจากการลงพื้นที่ย่านสยามดีมาก ซึ่งแม้จะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน แต่ประชาชนก็ให้ความสนใจขอถ่ายรูปและทักทาย ให้กำลังใจซึ่งการตอบรับดีมาก ส่วนจุดยืน ของพรรคพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี และยืนยันไม่ร่วมกับระบอบทักษิณแน่นอน รวมถึงพรรคการเมืองที่อยู่ในระบอบทักษิณ ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่ออะไรก็ตาม ถือว่าเป็นบริษัทเดียวกัน

ส่วนกรณีของพล.อ.ประยุทธ์จะดึง รปช.ร่วมงานหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร แล้วถ้า พล.อ.ประยุทธ์เห็นว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย มีจำนวนส.ส.ในสภามากและอยากจะชวนเราไปร่วม ก็มีประเด็นที่จะต้องสอบถามกันในเรื่องของการปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนและเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน เพราะเราเป็นพรรคของประชาชนมีหน้าที่รับใช้ประชาชน ซึ่งปัญหาที่เดือดร้อนขณะนี้ คือเรื่องเศรษฐกิจ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์รับแนวทางของพรรคได้ ก็พร้อมร่วมงาน

ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองมีจุดยืนเรียกร้อง ให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากได้ เป็นคนจัดตั้งรัฐบาล มากกว่าที่พรรคพลังประชารัฐจะจับมือกับ ส.ว.250 คนตั้งรัฐบาล นายสุเทพ ระบุว่า จุดยืนของเราชัดเจน เราทำตามกฎหมายบ้านเมือง ทำตามรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้ได้ก็เพราะประชาชนทั่วประเทศร่วมกันลงประชามติ ด้วยคะแนนเสียง 16.8 ล้านเสียงคะแนน

ดังนั้น ต้องเคารพเสียงของประชาชนใครที่รวบรวมเสียงได้เกินครึ่งของ สมาชิกรัฐสภา ก็เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณี ที่พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธร่วมการดีเบต ส่วนตัวไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการดีเบตเพราะเสียเวลาหาเสียง การดีเบตบางทีเหมือนเป็นการวิวาทกัน สนุกกับพิธีกรแต่ไม่ค่อยสนุกกับประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การหาเสียงของตัวเองว่าเหมือนเวทีกปปส. และวิเคราะห์ไปว่าพรรคที่ตัวเองสนับสนุน อาจจะแพ้เลือกตั้ง นายสุเทพระบุว่าไม่ให้ความสำคัญกับนายจตุพร ส่วนที่นายจตุพรท้าดีเบตกับตัวเอง ก็ไม่ได้ให้ราคากับนายจตุพร เพราะนายจตุพรอยู่ฝ่ายที่เคยสร้างปัญหาให้บ้านเมืองมาก่อน

สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมีการปรับกลยุทธ์ในการหาเสียงอย่างไรนั้น

นายสุเทพบอกว่า พรรคตัวเองไม่มีเล่ห์เหลี่ยมในทางการเมือง ทำการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เวทีปราศรัยใหญ่อาจจะมีแต่ต้องดูพื้นที่ ว่าประชาชนเรียกร้องหรือไม่ ซึ่งเราไปมาแล้วทุกภาค ขณะที่ความนิยมของพรรค มั่นใจว่า ในช่วงสุดท้ายของการหาเสียง คะแนนนิยมจะดีขึ้น คนที่เป็นพลังเงียบและรักชาติบ้านเมืองจะมายืนอยู่ข้างเดียวกับเรา ยืนยันว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะเป็นพรรคที่มีผู้แทนราษฎรอยู่ทุกภาค รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย