ไม่พบผลการค้นหา
ว่าที่หัวหน้าพรรค รปช. นำคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เข้ายื่นคำขอจัดตั้งพรรคการเมืองกับกกต. ยอมรับต้องพึ่ง 'สุเทพ' แต่ไม่ใช่คนบงการพรรค แนะหากดัน 'ประยุทธ์' นั่งนายกฯ ควรมีชื่ออยู่ในบัญรายชื่อตั้งแต่ต้น

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ว่าที่หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ยื่นหลักฐานต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยมีสมาชิกร่วมจัดตั้งจำนวน 506 คน ทุนประเดิมรวมกว่า 30 ล้านบาท พร้อมจัดทำข้อบังคับพรรคจำนวน 113 ข้อ

โดยม.ร.ว.จัตุมงคล เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคจะพูดคุยหารือเพื่อข้อสรุปร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ทั้งหมดจะอยู่บนพื้นฐานของการแก้ไขปัญหาด้านสังคมและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหา ด้านเกษตรกรรม ส่วนความคาดหวังว่าจะได้จำนวน ส.ส.กี่ที่นั่งในสภาฯ ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นทำงานทางการเมือง

สำหรับกรณีที่ไม่ปรากฏรายชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ สมาชิกพรรค ไม่ใช่ปัญหาความไม่เข้าใจภายในพรรค เพราะได้พูดคุยกับนายเอนก มาโดยตลอด ซึ่งเจ้าตัวก็สนใจติดตามงานของพรรคและคอยให้คำแนะนำ ต่อแนวทางการขับเคลื่อนพรรคให้เดินไปข้างหน้า 

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า จำเป็นต้องพึ่งพานายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพราะเป็นหนึ่งเดียว ที่มีประสบการณ์ทางการเมือง รวมถึงรู้จักบุคคลในแวดวงต่างๆ อย่างกว้างขวาง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การบงการหรือการควบคุมพรรคโดยนายสุเทพ 

ม.ร.ว.จัตุมงคล ระบุว่า แม้จะสนับสนุนการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่การที่นายกรัฐมนตรีจะมาเป็น บุคคลในบัญชีรายชื่อของพรรคได้ จะต้องผ่านความเห็นชอบ จากบุคลากรต่างๆ ภายในพรรคก่อน ขณะเดียวกันเห็นว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ควรมาในบัญชีรายชื่อตั้งแต่ต้น เพราะหากมา ในกระบวนการรอบ 2 อาจเกิดความยุ่งยาก จากเงื่อนไขต่างๆ ทางกฎหมาย ซึ่งจะมีความวุ่นวายตามมาได้

พร้อมกับระบุว่า ความเห็นต่างทางการเมืองของครอบครัว เป็นเรื่องของตัวบุคคล ซึ่งมีแนวคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน ส่วนใครจะชื่นชอบบุคคลใดหรือ นักการเมืองจากพรรคใด ไม่เคยปิดกั้น และมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลให้พรรคไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากสังคมเพราะประเด็นดังกล่าว 

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวว่า จากการที่ ม.ร.ว จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครปช. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรคชุดแรก นำหลักฐานเอกสารต่างๆพร้อมบันทึกรายงานการประชุมเมื่อ 5 สิงหาคม ไปจดทะเบียนตั้งพรรค ที่ทำการคณะกรรมการเลือกตั้ง ( กกต. ) จากนี้ พรรคการเมืองของประชาชนที่ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริง เป็นพรรคการเมืองถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย พร้อมทำหน้าที่เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พระศาสนาและประชาชาติไทย อย่างเข้มแข็ง ผลักดันการปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนให้เป็นผลสำเร็จให้จงได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง