ต่างประเทศ
ใครในสองคนนี้จะได้เป็นนายกฯ อังกฤษใหม่ ‘ซูนัค-ทรัสส์’ ผ่านเข้ารอบชิงหัวหน้าพรรค
ทรัสส์ เอาชนะ มอร์ดอนท์ ได้อย่างเฉียดฉิวในการลงคะแนนเสียงขั้นสุดท้ายของสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม ด้วยคะแนน 113 ต่อ 105 เสียง ซึ่งตอนนี้เธอจะต้องประจันหน้ากับ ซูนัค ผู้ได้คะแนนเสียงมากอยู่ที่ 137 คะแนน โดยสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมจะเป็นผู้ตัดสินชัยชนะของทั้งสองคน
ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร เอาชนะเพื่อเข้ารอบชิงได้ หลังจากได้รับคะแนนเสียงล่าช้าทั้งหมด 27 คะแนนเสียง ภายในระยเวลา 24 ชั่วโมงนับจากรอบที่แล้ว ในขณะที่ มอร์ดอนท์ได้คะแนนเสียงเพียง 13 คะแนน
ทั้งสองฝ่ายพยายามดิ้นรน เพื่อจะเรียกคะแนนสนับสนุนจากสมาชิกผู้สนับสนุน หลัง เคมิ บาเดน็อช ตกรอบไปแล้วในการลงคะแนนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (19 ก.ค.)
เอียน ดันแคน สมิธ อดีตหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ผู้ให้การสนับสนุนทรัสส์กล่าวว่า การหาเสียงของทรัสส์ “มีโมเมนตัมในช่วงท้าย” เขากล่าวเสริมว่า จุดยืนของทรัสส์เกี่ยวกับการปฏิรูปกฎหมาย และแผนการหลังการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เป็นปัจจัยสำคัญที่โน้มน้าวคนในพรรคให้สนับสนุนเธอ
ริชี ซูนัค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวว่า 137 คะแนนเสียงของเขา “เป็นเสียงที่มีพลัง ที่มาจากพลังของสมาชิกพรรค” ซูนัคยังได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ว่า เขายังคง “อ่อนน้อมถ่อมตน” แม้จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศแล้วก็ตาม อีกทั้งยังกล่าวว่า เขาควรจะเป็นผู้ชนะ เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคแรงงานในการลงคะแนนของรัฐสภาครั้งหน้า
ก่อนหน้านี้ มอร์ดอนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีการหาเสียงโดยเน้นย้ำถึงการสนับสนุนเบร็กซิต และความสามารถของเธอในการชิงที่นั่งของพรรคแรงงานมาให้พรรคอนุรักษ์นิยม แม้ว่าเธอจะเคยรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของ เทเรซา เมย์ อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงช่วงสั้นๆ มาแล้ว แต่ในสมัยของ บอริส จอห์นสัน เธอกลับได้ตำแหน่งเล็กๆ เท่านั้น ส่งผลให้เธอกลายเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก
จอร์จ ฟรีแมน หนึ่งในสมาชิกพรรคที่สนับสนุนมอร์ดอนท์กล่าวว่า “เธอมาเพื่อต่อกรกับการแข่งขันครั้งใหญ่ และเราเชื่อว่าเธอจะไม่ตกรอบแน่นอน”
ทั้งนี้ ซูนัคเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีหลายสิบคน ที่ลาออกเพื่อแสดงจุดยืนตรงข้ามกับจอห์นสัน ส่งผลให้จอห์นสันตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมในท้ายที่สุด และนำมาสู่การสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่จะขึ้นมาดำรงแหน่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรแทนจอห์นสัน โดยที่ผ่านมา ซูนัคได้หาเสียงปะทะกับทรัสส์เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจอยู่บ่อยครั้ง
ทรัสส์ให้คำมั่นว่าจะลดหย่อนภาษีมูลค่าราว 3.8 หมื่นล้านปอนด์ (ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท) หากเธอได้รับเลือก และเธอจะยับยั้งการเติบโตของนโยบายประกันภัยแห่งชาติ ที่รัฐบาลออกมาตั้งแต่เดือน เม.ย. ในขณะที่ซูนัคยังคงเป็นรัฐมนตรีการคลังอยู่
นอกจากนี้ เธอยังให้คำมั่นว่าจะยกเลิกการขึ้นภาษีนิติบุคคล นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2566 ที่ซูนัคประกาศไว้เมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว แต่ซูนัคคัดค้านข้อเสนอของเธอ โดยกล่าวว่าการขึ้นภาษีเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อฟื้นฟูสภาพทางการเงินของรัฐบาล หลังการเกิดโรคระบาดโควิด-19 โดยซูนัคกล่าวหาว่าทรัสส์กำลังเสนอ "ระบบเศรษฐกิจที่ทำอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ได้อะไรมาเลยสักอย่าง"
ซูนัคได้กล่าวว่าเขาเองก็ต้องการลดภาระภาษีลง แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อที่ขณะนี้อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ถูกควบคุมเสียก่อนเท่านั้น ทั้งนี้ ก่อนมอร์ดอนท์จะตกรอบ สตาร์เมอร์ได้วิพากษ์วิจารณ์ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ เกี่ยวกับการทำสัญญาภาษี “โดยไร้เม็ดเงินสนับสนุน” มูลค่าหลายพันล้านปอนด์ หัวหน้าพรรคแรงงานยังกล่าวเกี่ยวกับประเด็นการตอบคำถามของจอห์นสันอีกว่า “ไม่ได้ตอบคำถามสำคัญใดๆ” เกี่ยวกับสถานะของรัฐบาลตอนนี้เลย “ผมว่าการแข่งขันครั้งนี้ค่อนข้างชี้ให้เห็นชัดว่า พวกเขาทำให้เราวุ่นวายไปหมด แล้วพวกเขาก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ด้วย” สตาร์เมอร์กล่าวเสริม
แม้ว่าซูนัคจะเป็นอันดับหนึ่งในทุกรอบการลงคะแนน แต่จากการสำรวจชี้ว่าเขาอาจจะยังคงดิ้นรนเพื่อรักษาความได้เปรียบในหมู่สมาชิกพรรค โดยผลสำรวจของ YouGov เมื่อวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา (18-19 ก.ค.) จากสมาชิกพรรคทั้ง 725 คน พบว่า ซูนัคจะแพ้ทั้ง มอร์ดอนท์ และทรัสส์ หากต้องเผชิญหน้ากันตัวต่อตัว โดยแบบสำรวจระบุว่า มอร์ดอนท์จะชนะซูนัคด้วยคะแนน 51% ต่อ 37% ในขณะที่ทรัสส์จะชนะซูนัคด้วยคะแนน 54% ต่อ 35%
การเปิดให้ลงคะแนนโดยสมาชิกพรรคแต่ละภูมิภาคจะเกิดขึ้นในวันที่ 28 ก.ค. ถึง 31 ส.ค. โดยเริ่มที่ ลีดส์ ทั้งนี้ สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมประมาณ 160,000 คนจะลงคะแนนทางไปรษณีย์หรือทางออนไลน์ในช่วงต้นเดือน ส.ค.ถึง 2 ก.ย. และจะประกาศผู้ชนะในวันที่ 5 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม และนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรคนใหม่
ที่มา:
