ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมวิทย์ฯ ชี้แจง 'นักท่องเที่ยวอิสราเอล' ติดเชื้อโอไมครอน แต่อยู่ในช่วงขาลง โอกาสแพร่เชื้อน้อย ด้าน 'อนุทิน' ย้ำต้องดำเนินคดี

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลหลบหนีออกจากระบบโดยไม่รอผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต่อมาโรงพยาบาลสมุยมีการเก็บตัวอย่างตรวจแลบ 2 แห่งผลเป็นลบ จึงสร้างความสับสนให้กับสังคมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอชี้แจงว่านักท่องเที่ยวรายนี้เข้าประเทศไทยผ่านระบบ Test & Go มีรพ.คู่สัญญาทำการเก็บตัวอย่าง สิ่งที่ส่งตรวจพบผลเป็นบวก ของเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.

ดังนั้น ตามเกณฑ์จึงส่งตรวจหาสายพันธุ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. โดยวิธีการตรวจเบื้องต้นพบว่าเป็นเชื้อโอไมครอน หลังจากนั้นได้มีการตรวจรหัสพันธุกรรมทั้งตัวโดยการเป็นเพิ่มจำนวนเชื้อ 30 วงรอบ (CT) ก็ยืนยันเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เป็นสายพันธุ์โอไมครอนเช่นกัน แต่หลังจากนั้นชาวอิสราเอลรายนี้ก็หายไป 2-3 วัน แล้วไปโผล่ที่เกาะสมุย รพ.สมุย เก็บสิ่งส่งตรวจ และตรวจยืนยันผลด้วยแลบ 2 แห่ง พบว่าผลเป็นลบ 

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ตามปกติหากคนที่มีเชื้อมากจะปั่นเชื้อเพียงไม่กี่รอบก็สามารถตรวจเจอเชื้อได้ กรณีของนักท่อง ที่ปั่นถึง 30 วงรอบแล้ว ยิ่งไปถึงสมุยอีก 2-3 วัน เชื้อยิ่งเหลือน้อยจึงตรวจไม่เจอ ดังนั้นจึงค่อนข้างสบายใจว่าโอกาสในการแพร่เชื้อมีน้อย แต่ก็ยังสามารถติดได้ ขณะนี้ถือว่านักท่องเที่ยวรายนี้ผลเป็นลบแล้ว แต่ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทาง รพ.สมุยได้ส่งมาตรวจเพิ่มเติมที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สุราษฎร์ธานี คาดว่าผลน่าจะออกในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งตนได้กำชับให้ตรวจด้วยวิธีที่ต่างกับแลบ 2 แห่งแรก

เมื่อถามว่า กรณีการตรวจเจอเชื้อจากการปั่นวงรอบสูง ๆ จะอาจแปลได้ว่าเพิ่งเริ่มติดเชื้อ หรือเป็นเพราะขาลง หรือหายแล้ว ดังนั้นในรายนี้เหตุใดจึงวิเคราะห์ว่าเป็นช่วงขาลง นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า กรณีหากตรวจพบครั้งแรกให้ผลเป็นลบ แล้วตรวจรอบหลังให้ผลเป็นบวก กรณีนี้จะเป็นช่วงขาขึ้น แต่หากตรวจครั้งแรกเป็นบวก แล้วมาตรวจรอบหลังเป็นลบ กรณีเช่นนี้ถือเป็นช่วงขาลง

ดังนั้นในรายของนักท่องเที่ยวอิสราเอล จึงค่อนข้างชัด ตรวจที่บ้านเขาก่อนเข้ามาที่ประเทศไทยแล้วไม่เจอ พอมาถึงไทยตรวจรอบแรก ๆ เจอ แปลว่าเป็นขาขึ้นระยะหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ตรวจเจอว่าเป็นลบแสดงว่าอยู่ในช่วงขาลง


'อนุทิน' ยันต้องดำเนินคดี

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ก็ต้องดำเนินคดี เรื่องนี้ได้สืบสวนแล้วพบว่า นักเดินทางคนนี้ไม่ยอมรอผลตรวจ แล้วเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ เท่ากับได้ละเมิดกฎหมายในประเทศไทยแล้ว โทษเป็นอย่างไร ว่าไปตามนั้น ในกรณีแบบนี้ หากติดเชื้อโควิด ทางการจะรักษาให้ตามสิทธิ์ประกันสุขภาพที่เขาซื้อไว้ก่อนเดินทางเข้ามา เมื่อรักษาหาย ก็ต้องรับโทษที่ก่อไว้ แต่ถ้าไม่ติดเชื้อ ก็ต้องถูกลงโทษอยู่ดี เรื่องนี้สาระคือ เขาได้ทำผิดกฎหมายประเทศไทย อีกเรื่องคือ ทางโรงแรม ก็ต้องรับผิดชอบว่าทำไม ปล่อยให้ออกมา ทั้งที่ยังไม่ได้รับผล เราต้องมาดูมาตรการว่ามันมีช่องโหว่ตรงไหนแล้วรีบอุด อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะนี่คือเคสเดียว แต่ถ้ามี 50 เคส รับรองว่าวุ่นวายมหาศาล