ไม่พบผลการค้นหา
รองหัวหน้าเพื่อไทยเชื่อ ‘ประยุทธ์’ ไปไม่รอดแน่ อาจชิงยุบสภาฯ ก่อนซักฟอก ย้ำเชื่อมีเหตุจากการขับก๊วน ‘ธรรมนัส’ พ้น พปชร. ถามเอา 260 เสียงที่ไหนมายกมือโหวตหนุนในสภาฯ ท้างูเห่าอย่าทำลับๆล่อๆ

วันที่ 6 มี.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึงการเตรียมความพร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในเดือน พ.ค.นี้ว่า ในรายละเอียด ทางคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน จะเป็นผู้ชี้แจงว่าจะมีการนำเสนอประเด็นอะไรบ้าง แต่ในฐานะผู้ที่เคยอภิปรายเรื่องการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และเรื่องเรือดำน้ำ ยืนยันว่า การอภิปรายครั้งต่อไปจะมีเรื่องใหม่เพิ่มเติมอีกแน่นอน ขอฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีการสรรเสริญเยินยอ คราวที่แล้วเป็นการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรมนูญมาตรา 152 แต่พล.อ.ประยุทธ์ มองว่า ฝ่ายค้านไปใช้คำพูดรุนแรงก้าวร้าว ทั้งที่ความจริงแล้วมันคือหน้าที่ เพราะเขามาไล่รัฐบาล

เมื่อถามถึง ส.ส. 260 เสียงที่ อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อ้างว่า เพียงพอกับการยกมือสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์นั้น ยุทธพงศ์ ถามว่า ไปเอามาจากไหน ขนาดร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ยังสงสัยเลย ถ้านายกฯมั่นใจก็อย่ายุบสภาฯหนีก็แล้วกัน 

ส่วนใน 260 เสียงจะมีงูเห่าหรือไม่นั้น ก็ขอท้าให้แสดงตัวออกมา อย่าทำลับๆ ล่อๆ ประชาชนจะได้ลงโทษสั่งสอนผ่านการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ คุณอยู่พรรคการเมืองหนึ่ง กลับไปยกมือให้กับอีกพรรคการเมืองหนึ่งได้อย่างไร

“ถ้านายกฯมั่นใจว่ามีส.ส. 260 เสียงสนับสนุนจริง ตอนนี้ต้องเสนอ พ.ร.ก.เงินกู้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้สภาฯเห็นชอบ หลังก่อนหน้านี้ได้ขยายเพดานเงินกู้จาก 60% เป็น 70% แล้ว เพราะสถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นจะต้องกู้เงินเพิ่ม เป็นผลจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น เพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ รวมทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้าไม่กู้จะทำอย่างไรต่อไป” ยุทธพงศ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ฟันธงได้หรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยุบสภาฯก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ฟันธงมาตั้งนานแล้วว่ายุบสภาฯก่อนแน่นอน ตั้งแต่ส.ส.ก๊วน ร.อ.ธรรมนัส ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ประชุมสภาฯยังไงก็ไปไม่รอด และแม้ว่ากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ โอกาสในการยุบสภาก่อนก็เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องไปว่ากัน เพราะอำนาจยุบสภาฯอยู่ที่นายกฯ ไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายค้าน