ไม่พบผลการค้นหา
'ปกรณ์วุฒิ' ตั้งคำถามรัฐบาลไม่ประกบร่าง พ.ร.บ.อากาศเป็นพิษ ของ 'ก้าวไกล' เข้ากับ พ.ร.บ.อากาศสะอาด ฉบับ ครม. ย้ำนายกฯ ควรมีวุฒิภาวะตัดสินใจเซ็นรับรองเอง

วันที่ 9 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 7 ฉบับ โดยระบุว่า ทุกร่างเกี่ยวข้องกับการเงิน ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะต้องเซ็นรับรอง 

แต่หนึ่งในนั้นมีร่าง พ.ร.บ.อากาศเป็นพิษของพรรคก้าวไกล ที่วิปรัฐบาลบอกว่านายกรัฐมนตรีไม่เซ็นรับรองให้ โดยอ้างความคิดเห็นของกฤษฎีกา ที่ระบุว่าร่างของพรรคก้าวไกลมีหลักการต่างจากร่างอื่น จึงไม่สามารถนำมาประกอบได้ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ กฤษฎีกาจะมาชี้แจงต่อวิปฝ่ายค้าน จึงจะใช้โอกาสถามรายละเอียดให้ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวอีกรอบ

ปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาวิปรัฐบาลมองว่าร่าง พ.ร.บ.อากาศเป็นพิษเป็นส่วนย่อยของ ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด จึงต้องตั้งคำถามดังๆ ว่า ทำไมถึงประกบร่วมกันไม่ได้ อีกทั้งยังไม่ควรอ้างความเห็นของกฤษฎีกาทุกอย่าง เพราะนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการตัดสินใจเซ็นรับรอง จึงต้องมีวุฒิภาวะเพียงพอในการพิจารณาเองได้

ปกรณ์วุฒิ เชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.อากาศเป็นพิษ เป็นหลักการเดียวกัน และสามารถพิจารณาร่วมกันได้กับร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด และแม้ร่าง พ.ร.บ.อากาศเป็นพิษ จะไม่ได้เข้าสู่สภาฯ พร้อมกับร่างอื่นๆ แต่เมื่อมีการตั้งกรรมาธิการ พรรคก้าวไกลก็มีสัดส่วนในการเข้าไปร่วมผลักดันรายละเอียดได้อยู่แล้ว แต่มองว่าเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนหากร่างพ.ร.บ.อากาศเป็นพิษไม่เข้าพิจารณาพร้อมกันในตอนนี้ แล้วนายกรัฐมนตรีเซ็นรับรองในภายหลัง เมื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร จะต้องพิจารณาอีกรอบและอาจเป็นการแก้ไข พ.ร.บ.เดิมที่บังคับใช้ไปแล้ว ดังนั้น หากพิจารณารอบเดียวจะมีประสิทธิภาพมากกว่า

พร้อมกันนี้ ปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีเตรียมเดินหน้าออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทว่า ฝ่ายค้านขอรอท่าทีอย่างเป็นทางการ ขณะที่พรรคก้าวไกลมีท่าทีต่อเรื่องดังกล่าวตั้งแต่แรกแล้ว จึงจะรอตรวจสอบอย่างเข้มข้นอีกครั้ง


'ไทยสร้างไทย' จ่อคืนเก้าอี้ประธาน กมธ.อว.

ปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงกรณีที่ 4 สส.ฝ่ายค้าน โหวตสวนมติในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา

โดย ปกรณ์วุฒิ ระบุว่า ในกรณีนี้ พรรคไทยสร้างไทยได้ติดต่อมาพูดคุยกับตนเพื่อขอโทษอย่างไม่เป็นทางการแล้ว โดยขออภัยที่ไม่สามารถควบคุมเสียง สส.ในพรรคได้ ส่วนมาตรการของพรรคไทยสร้างไทยเองให้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรคในวันนี้ว่าจะมีแนวทางออกมาอย่างไร 

ส่วนตนเองในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านได้พูดคุยกับ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ซึ่งเดิมเป็นโควต้าคณะกรรมาธิการของพรรคก้าวไกลที่มอบให้พรรคไทยสร้างไทยไป ในส่วนนี้ ฐากร ได้แจ้งขอคืนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ อว. ให้ พรรคก้าวไกลก่อนกำหนดที่คุยกันไว้แล้ว ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้นต้องรอทางพรรคไทยสร้างไทยแจ้งกลับมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ทั้งนี้ ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า พร้อมร่วมงานกับ 3 สส.พรรคไทยสร้างไทย ที่โหวตสวนมติวิปฝ่ายค้าน และพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเล็ก ในส่วน สุรทิน พิจารณ์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ยังไม่เคยพูดคุยถึงการทำงานเป็นฝ่ายค้านร่วมกันอย่างเป็นทางการ และจากการโหวต พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ที่ผ่านมาก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า สุรทิน ไม่ได้อยู่ร่วมกับฝ่ายค้าน ซึ่งไม่เป็นไร อยู่กันเท่าที่มี

ขณะที่ได้วางมาตรการสำหรับอนาคตต่อการโหวตในสภาครัังถัดไปหรือไม่นั้น ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากเป็นการพิจารณาในวาระใหญ่ๆ เช่นการอภิปรายไปไว้วางใจแน่นอนว่าจะต้องมีมติวิปฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ และจะต้องมีมาตรการในการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้าน