ไม่พบผลการค้นหา
’เพื่อไทย' พร้อมทำสงครามยาเสพติดทันทีหลังแลนด์สไลด์ ย้ำอย่าหลงวาทกรรม 'ฆ่าตัดตอน' แนะบันได 5 ขั้นปรามยาเสพติด 'จิรายุ' ชี้ 'เสพติดอำนาจ' ของ 'ประยุทธ์' ร้ายแรง ด้าน 'มนพร' เล็งรื้อกฎหมายอาวุธปืน ขณะที่ 'จุฑาพร' ชี้ต้นตอยาเสพติดระบาดมาจากการซื้อขายตำแหน่ง

วันที่ 18 ต.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย ในงานเสวนา ‘เพื่อไทย ประกาศสงครามยาเสพติด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า’ โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า โศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู เป็นจุดกระตุ้นใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องประกาศต่อสาธารณชนว่า เราจะทำสงครามกับยาเสพติด โดยจะนำเอาแนวคิดที่เคยดำเนินการในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

นพ.ชลน่าน ระบุว่า โดยยังคงหลักการเดิมคือการนำมิติเชิงสังคมมาช่วยกันดูแลคนในสังคม ภายใต้การคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และกรอบของกฏหมาย แม้แนวทางดังกล่าวจะถูกกล่าวหาโจมตีมาโดยตลอด เช่น "วาทกรรมฆ่าตัดตอน" ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้เกิดจากผู้กำกับนโยบายเป็นผู้ดำเนินการ แต่เป็นกระบวนการทางสังคม จึงยืนยันว่าไม่มีนโยบายฆ่าตัดตอนเกิดขึ้น 

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ทุกองค์กร อย่าหลงเข้าใจผิดกับวาทกรรมดังกล่าวนี้ เพราะอาจถูกมองว่าเป็นการเข้าข้างเปิดทางให้ผู้ใช้ยาเสพติดแสวงหาผลประโยชน์จากวาทกรรมนี้ได้ เพราะศัตรูร้ายของการแพร่ระบาดของยาเสพติด คือ ผลประโยชน์  

ชลน่าน ยาเสพติด-FD90-4000-B246-0B1968266710.jpegชลน่าน ยาบ้า ยาเสพติด 8C4-0D4607E3EFFF.jpeg


ชลน่าน เพื่อไทย เสวนา ยาเสพติด -D778-413F-820D-BB5A30481F77.jpeg

ทั้งนี้หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทำสงครามกับยาเสพติด โดยจะดำเนินการใน 5 ส่วน ได้แก่

1.ปราบปรามการใช้ยาเสพติดด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เข้มข้นบนหลักแห่งความจริง ไม่ใช้กฎหมายที่ล้นเกิน 

2.นำบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้เสพไปบำบัดฟื้นฟู ให้กลับสู่สังคมได้ ผู้เสพคือผู้ป่วย ต้องได้รับการบำบัด รักษา ฟื้นฟู โดยต้องแยกผู้ป่วยตามประเภทของยาเสพติดอย่างชัดเจนว่า ติดยาเสพติดประเภทใด ต้องได้รับการบำบัดที่แตกต่างกัน 

3.มาตรการป้องกัน และการเพิ่มองค์ความรู้ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รู้จักโทษและพิษภัยของยาเสพติด รวมทั้งการใช้กลไกชุมชนเข้มแข็ง ‘บวร’ (บ้าน วัด โรงเรียน) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน จับมือกันเป็นสถาบันชุมชนที่เข้มแข็ง ใช้มาตรการทางสังคมช่วยกันปกป้องลูกหลานและคนในสังคม

4.มาตรการขอความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและปราบปราม เพราะกระบวนการผลิตยาเสพติดขณะนี้มี 7 บริษัทแย่งกันผลิตป้อนเข้ามา กำลังการผลิตมหาศาล ต้นทุนการผลิตต่ำเม็ดละ 4-7 บาท 

5.ยาเสพติดเป็นเรื่องของทุกภาคส่วนในสังคม ต้องประสานงานบูรณาการร่วมกันป้องกัน

นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะนำกรณีโศกนาฏกรรม จ.หนองบัวลำภู และกรณีการแพร่ระบาดของยาเสพติด เข้าสู่ญัตติด่วนต่อสภา ในวันที่ 3 พ.ย. 2565 ซึ่งจะมีการเปิดโปงข้อมูลว่าใครเกี่ยวข้องกับกระบวนยาเสพติดบ้าง

ชลน่าน -AC75-429A-8670-862223828351.jpegเพื่อไทย จิรายุ เสวนายาเสพติด -A63E-4D79-B9BF-4F118386AE6C.jpeg

ขณะที่ จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน กล่าวว่า พรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคพลังประชาชน และเพื่อไทย เริ่มต้นแก้ไขปัญหายาเสพติดจากศูนย์และทยอยแก้ไข แต่สถานการณ์ในขณะนี้ต้องเริ่มต้นแก้ไขปัญหาจาก 10 แม้รัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศอย่างชัดเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาว่าจะเข้ามาวางรากฐานสังคม เศรษฐกิจและการเมือง แต่ผ่านมา 4 ปี สถานการณ์หนักกว่าเดิม รวมถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติด แต่ที่ร้ายแรงกว่ายาเสพติดประเภทอื่นคือ การเสพติดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เอง

สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหายาเสพติด คือรัฐบาลต้องตัดวงจรที่เรียกว่า ‘ของชนของ’ จับกุมผู้ค้าและผู้เสพที่มียาเสพติดให้ได้ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงรู้ดี ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องลงทุนเครื่องเอกซเรย์ยาเสพติดที่ได้มาตรฐาน ประจำตามจุดพรมแดนระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่เมือง ทั้งนี้หากรัฐบาลยังเมินเฉยไม่แก้ไขปัญหา มีความกังวลว่าจะมีคนตายเป็นล้านคนก็เป็นได้ 

ทั้งนี้การที่พรรคเพื่อไทยประกาศทำสงครามกับยาเสพติด ต้องหาจุดต่างและจุดยืนร่วมกัน ระหว่างคนและนโยบาย รวมทั้งกระบวนการในมิติเชิงสังคมในระดับชุมชนมีความสำคัญมาก ที่ผ่านมาการทำสงครามกับยาเสพติดในสมัยรัฐบาลไทยรักไทยและพลังประชาชน มีแต่คนชื่นชม เพราะมีทั้งหมู่บ้านสีขาว หมู่บ้านปลอดยาเสพติด เป็นต้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ สถิติยาเสพติดลดลงอย่างมีนัยยะ เพราะไม่มีการจับกุมที่มากพอ 

“มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คือ ประชาชนจนมั่นคง คนในคณะรัฐมนตรีมั่งคั่ง และรักษาเก้าอี้อย่างยั่งยืน ผ่านมา 8 ปีแห่งความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพราะรัฐบาลเสพติดอำนาจ คนจนจะตายอยู่แล้วจึงต้องพึ่งเสพยาเสพติด หากเศรษฐกิจดี ทุกอย่างจะดีตาม ประชาชนไม่มีภาวะเครียด ฝ่ายตำรวจมีความเข้มแข็ง ทุกคนมีความสุขกับการใช้ชีวิต หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะเร่งสปีดในที่บ้านเมืองติดลบแล้วใส่เกียร์เร่งทันที” จิรายุ กล่าว 

เพื่อไทย เสวนา ยาเสพติด ชลน่าน จุฑาพร จิรายุ มนพร -7247-48F4-BCD3-6012C0C37DC6.jpegมนพร -A04B-6BC010E493FE.jpeg

ด้าน มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหายาเสพติด มีทั้งในมิติทางกฎหมายและมิติทางสังคม ในทางกฎหมายนั้น ในยุค คสช. รวบกฎหมายยาเสพติด 24 ฉบับรวมเหลือแค่ 2 ฉบับ กลายเป็นช่องว่างให้ผู้ค้ายาเสพติดที่มียาเสพติดในปริมาณน้อย กลายเป็นผู้เสพยาเสพติดและให้ส่งตัวไปบำบัด เจ้าหน้าที่บ้านเมืองถือโอกาสนี้แบล็คเมล์เอาเงินทองจากผู้ค้าเพื่อให้หลุดรอดจากคดีความ

ส่วนในเรื่องการครอบครองอาวุธปืนนั้น ทุกวันนี้ฝ่ายปกครองเปิดช่องครอบครองพกพาอาวุธปืนได้ กลายเป็น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครูผู้ช่วย ครูพี่เลี้ยง อสม. พกปืนได้ทั้งหมด และยังพกกระสุนคนละ 30-41 นัด เสมือนกับมีคลังแสงพกติดตัวพร้อมใช้ได้อีกเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด

จุฑาพร -8EC1-D4616398241A.jpegมนพร ยาเสพติด ยาบ้า -BDEE-13A2E37AD616.jpeg


จุฑาพร 96A8-9A1B5C4F5ED3.jpeg

จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ บางรัก สาทร ปทุมวัน พี่น้องประชาชนร้องเรียนมาว่าลูกหลานติดยาเสพติด ไม่เว้นแม้กระทั่งกลางเมือง ยาบ้ามีราคาถูกลง กลุ่มคนผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงยาเสพติดได้ง่ายและเสพเพิ่มขึ้นได้ในปริมาณมาก เกิดอาการคลั่งยาหลอนยา 

ซึ่งช่องทางพรมแดนไทย เมียนมา ระยะทาง 2,000 กิโลเมตร กลายเป็นหนึ่งในเส้นทางหลักในการลำเลียงยาเสพติด แต่คำถามคือกำลังเจ้าหน้าที่ในการตรวจตรามีเพียงพอหรือไม่ และตรวจสอบปราบปรามการเข้าเมืองทางพรมแดนนั้นดีพอหรือยัง

จุฑาพร มองว่า กระบวนการที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของยาเสพติด ส่วนหนึ่งมาจากการเรียกเก็บส่วยในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในสถานบันเทิง เพื่อนำเงินไปโยกย้ายซื้อขายตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้การตรวจสอบข้อเท็จจริงจากรัฐบาลโดยด่วน สำหรับทางออกคือการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตามชายแดน และศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ในการปราบปรามยาเสพติดที่มีอยู่นั้นทำหน้าที่ได้ดีพอแล้วหรือไม่ หน่วยงานด้านการศึกษา ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ต้องให้ความรู้ถึงพิษภัยของยาเสพติดมากขึ้นด้วย