ภูมิภาค
อิทธิพลพายุ 'เซินติญ' บึงกาฬ น้ำท่วมถนนหลวงระหว่างอำเภอ ชาวบ้านสัญจรลำบาก
จากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน 'เซินติญ' (SON-TINH) ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะที่บริเวณ จ.บึงกาฬ ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.ค. 2561) ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้ 45.6 มิลลิเมตร ประกอบมีมวลน้ำสะสม จากเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้ในพื้นที่บ้านดอนเสียด ต.บ้านต้อง อ.เซกา มีมวลน้ำจำนวนมาก ไหลเข้าท่วมถนนทางหลวงชนบท สาย 3009 ระหว่างบ้านชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ – บ้านต้อง อ.เซกา บริเวณกิโลเมตรที่ 19-20 ช่วงสะพานบ้านดอนเสียด – นาต้อง ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากสำนักงานทางหลวงชนบทบึงกาฬ ได้นำอุปกรณ์การแจ้งเตือนทั้งป้าย กรวยสะท้อนแสง และสัญญาณไฟเข้าไปติดตั้ง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวให้ใช้ความระมัดระวังในการสัญจรหรือหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
นอกจากนี้ มวลน้ำที่ไหลลงมาจากภูวัว ผ่านลำห้วยบังบาตรที่มีจำนวนมาก ได้เอ่อล้นไหลเข้าท่วมนาข้าว สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.บ้านต้อง อ.เซกา, ต.ชัยพร อ.เมืองจ.บึงกาฬ ต้องจมอยู่ในน้ำกว่า 3,000 ไร่
ขณะที่ บริเวณบ้านถ้ำพระ และบ้านนาตะไก้ ต.โสกก่าม อ.เซกา ซึ่งเป็นต้นน้ำที่รับรองน้ำจากเขาภูวัว ที่ถูกน้ำป่าไหลหลากลงมาในเช้าวานนี้ ระดับได้ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังมีมวลน้ำจำนวนมากท่วมพื้นที่การเกษตรใน ต.นาแสง ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ ต.บ้านต้อง อ.เซกา และ ต.บึงโขงหลง รวม 4 อำเภออยู่ ซึ่งคาดว่าพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมกว่า 5,000 ไร่
ชาวนาโคราชดำนาคึกคัก-เขื่อน 5 แห่ง มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่ จ.นครราชสีมา มีฝนตกลงมาต่อเนื่องส่งผลให้พื้นที่นาของเกษตรกรในหลายพื้นที่ได้รับผลดี มีปริมาณน้ำอย่างพอเพียง เหมาะกับการดำนาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่นาในเขต ต.นิคม อ.พิมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงมานาน จนเกษตรกรไม่สามารถดำนาได้ ล่าสุดขณะนี้เกษตรกรหลายรายได้พากันลงมือปักดำนาข้าวกันอย่างคึกคัก
นายศรี ทองนอก ชาวนาใน ต.นิคม อ.พิมาย กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาติดต่อกันตลอดทั้งวัน ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ส่งผลดี ทำให้ตนเอง สามารถนำต้นกล้า มาปักดำไว้บริเวณทุ่งนา ซึ่งเป็นที่ปลูกข้าวดินทราย บนพื้นที่นาดอน เพื่อให้ข้าวนาปีเจริญเติบโตให้ทันกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปี หลังจาก เกษตรกร รอคอยน้ำฝนที่จะตกลงมาเพื่อให้มีน้ำใช้ในการเพาะปลูกข้าว
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรยังคง ไม่มั่นใจว่า จะประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วงต่อไปอีกหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ทำนาปลูกข้าวในเขต ต.นิคม ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ นาดอน อยู่บนที่ราบสูง ห่างไกลแหล่งน้ำ รอคอยเพียงน้ำฝนที่จะตกลงมาตามฤดูกาลเท่านั้น หากว่า ในพื้นที่ ประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วงอีก ก็จะส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี บนพื้นที่นาดอนหลายรายอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน สำนักงานชลประทานที่ 8 เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนทั้ง 5 แห่ง ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ขณะนี้มีระดับน้ำเหลือเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 55 ของความจุกักเก็บ ประกอบไปด้วย เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 205 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 65 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนมูลบน อ.ครบุรี มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 124 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 87 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 66 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 98 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ทุกเขื่อนเริ่มปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรได้แล้ว
พิจิตรชาวนาเร่งเกี่ยวข้าวหนีพายุฝนพายุเซินติญ
นอกเหนือจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ที่ จ.พิจิตร เกษตรกรชาวนาในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร ได้เร่งว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวทำการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง เพื่อป้องกันความเสียหาย เพื่อป้องกันความเสียหายจากฝนที่ตกลงมา ซึ่งจะส่งผลให้ข้าวที่ใกล้เก็บเกี่ยวล้มเสียหาย เกิดความชื้นของข้าวเพิ่มขึ้น และจะทำให้ราคาลดต่ำกว่าเดิม
นางจำเริญ จันทน์เทศ ชาวนา ระบุ ว่า พื้นที่ปลูกข้าว เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มักจะเกิดน้ำฝนที่ตกลงมาท่วมขังเป็นประจำ หากไม่เก็บเกี่ยวข้าวในช่วงนี้ และเกิดมีฝนตกลงมาจากพายุฝน ซึ่งจะทำให้ข้าวที่ได้กำหนดเก็บเกี่ยวเสียหาย และ เกิดความชื้นในเมล็ดข้าว ซึ่งจะทำให้ราคาจำหน่ายลดลง จึงต้องเร่งทำการเก็บเกี่ยว ป้องกันความเสียหาย
อ่านเพิ่มเติม :
