วันที่ 9 พ.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 นั้น จะมีผลกระทบต่อการวางตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดย นพ.ชลน่าน ตอบว่า ขณะนี้ แพทองธาร ยังไม่ได้รับการประกาศให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ต้องตอบว่ายังไม่มีผลกระทบอะไร
ส่วนจะมีผลต่อการพิจารณาในอนาคตหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก ส่วนมิติในเชิงสุขภาพ หรือสาธารณะบุคคล มีผลในการพิจารณาน้อยมาก ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับสภาวะที่ไม่สามารถทำงานได้เลย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่หากมีอะไรที่กระทบต่อการหน้าที่การทำงาน ถึงจะต้องนำมาสู่กระบวนการพิจารณา เพราะถือเป็นอีกปัจจัยที่เรานำมาพิจารณานอกเหนือจากการฟังเสียงของประชาชน
เมื่อถามว่าจะกระทบต่อการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เนื่องจาก แพทองธาร อยู่ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามีกลไกมีวิธีการหาเสียงที่หลากหลาย แต่อาจจะกระทบบางส่วน ถึงอย่างไรก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องหลัก
เมื่อถามถึงกรณีความสัมพันธ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นพ.ชลน่าน ปฏิเสธตอบคำถาม โดยระบุว่า ไม่ขอพูดเรื่องนอกพรรค เขาไม่เกี่ยวกับเรา
'เพื่อไทย' พร้อมโหวตคว่ำ ร่างพ.ร.บ.กัญชาเสรี ถ้าไม่ปรับแก้เพื่อใช้ทางการแพทย์
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงการพิจารณา ร่าง พ.ร.ก.มอบอำนาจให้กระทรวงการคลังกู้เงิน 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในกองทุนน้ำมัน ซึ่งกำลังพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้ ว่า หลังคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ศึกษารายละเอียดและส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะอนุมัติ พ.ร.ก.ดังกล่าว แนวทางการลงมติก็น่าจะเป็นไปตามแนวทางนั้น
ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ย้ำจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อ พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ หลังช่วงการประชุมเอเปค โดยระบุว่า เราเป็นพรรคที่ยืนอยู่ข้างประชาชน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มีหลักการกว้างมากในชั้นรับหลักการ พร้อมระบุเหตุผลว่าสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์ ในส่วนเหตุเรารับได้ แต่ได้ท้วงติงไปว่าลักษณะของกฎหมายต้องใช้เพื่อควบคุมไม่ให้เยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยได้ศึกษาร่าง พ.ร.บ.ในรายละเอียด พบว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่มีคำตอบว่าจะสามารถควบคุมการใช้กัญชาเสรีได้ จึงทักท้วงให้ถอนออกไปเพื่อปรับแก้ ทว่ากรรมาธิการฯ ก็ไม่ได้ปรับแก้ตามข้อเสนอแต่อย่างใด ดังนั้น ในวาระที่ 2 ก็ต้องสู้ต่อว่าสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นรายมาตราตามที่ทำข้อเสนอไปหรือไม่
“ถ้าแก้ได้เป็นไปตามที่เราตั้งวัตถุประสงค์ คือกัญชาเพื่อการแพทย์ วิทยาศาสตร์ การทดลอง วิจัย การพาณิชย์ เศรษฐกิจที่เหมาะสมสอดคล้องกับการแพทย์ หรือยา โดยที่สามารถควบคุมได้ เราจะยอม ที่สำคัญคือมาตรการควบคุมไม่ให้เป็นกัญชาเสรี เราจะยอม เราจะเห็นด้วย แต่ถ้าไม่มีการแก้ไข และเสียงข้างมากยังยึดตามหลักที่เสนอมา ก็ถือว่าเราจะไม่เห็นชอบด้วย” นพ.ชลน่าน กล่าว