นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ระบุถึงกรณีที่ได้ทำหนังสือส่งไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้ตรวจสอบขบวนพาเหรดและการแปรอักษรในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง อันฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 หรือไม่ โดยระบุว่า การขอให้ตรวจสอบครั้งนี้ก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทำตามกฎหมายหรือคำสั่งที่ยังมีผลใช้บังคับอยู่อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ได้เลือกว่าทำไปแล้วจะเกิดการขัดกันแห่งผลประโยชน์ระหว่างเรื่องทางการเมืองกับการละเว้นไม่ร้องเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามกฎหมายหรือคำสั่งที่ใช้บังคับอยู่หรือไม่ แต่ทำไปเพื่อให้สาธารณชนได้เห็นว่า กฎหมายหรือคำสั่งที่มีสภาพเป็นกฎหมายนั้น ต้องใช้อย่างเป็นธรรมและไม่มีการเลือกปฏิบัติ
"เมื่อหลายคนที่มีความกังวลต่อเรื่องนี้ สื่อสารหลายทางเพื่อขอให้ผมขอโทษต่อเรื่องนี้ด้วยเกรงว่าจะมีผลกระทบทางการเมืองต่อไปหรือมีองค์กรอื่นทั้งในและต่างประเทศมาตำหนิด้วยนั้น ผมก็ขอโทษได้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะให้ยกเลิกหนังสือดังกล่าวด้วยนั้น คงทำไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ทำด้วยตนเองโดยไตร่ตรองแล้วเหมือนที่เคยปฏิบัติมา และทำไปโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองบุคคลใด รวมทั้งไม่ได้ปรึกษาหรือรับงานจากบุคคลใด เพราะหลายครั้งที่ทำไปในหลายเรื่องก่อนหน้านี้ ก็เป็นเช่นนี้ คือ ได้รับการติดต่อจากหลาย ๆ ฝ่ายขอให้ระงับการยื่นหนังสือด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แต่ผมไม่อาจจะทำตามความเห็นของผู้ใดจนต้องเลือกปฏิบัติในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้" นายเรืองไกร ระบุ
ก่อนหน้านี้ นายเรืองไกร ได้ระบุเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยขอให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ตรวจสอบงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ข้อ 12 หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้อยู่ และมีการทำหุ่นล้อทางการเมืองและแปรอักษรในลักษณะล้อเลียนทางการเมืองอย่างชัดเจน และมีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปอย่างชัดเจน กรณีดังกล่าวเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อย ตามความในข้อ 2 ของคำสั่งดังกล่าวจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เช่นเดียวกับที่ได้ดำเนินการต่อกลุ่มเคลื่อนไหวสกายวอล์ค 39 คน หรือกลุ่มมวลชน 40 คน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง