ไม่พบผลการค้นหา
กรรมการการเลือกตั้ง ชี้ให้เวลา 30 วันจัดการสมาชิกพรรคแทบเป็นไปไม่ได้ แถมมีภาระหนัก ย้อนดูอดีตสมาชิกไม่ใช่ปัจจัยชนะเลือกตั้ง บอกโหวตครั้งแรกใช้สมาชิกแค่หมื่นคนก็พอ

จากกรณีที่นักการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ต่อคำสั่งของ คสช.ที่ 53/2560 ให้สมาชิกพรรคการเมืองทุกพรรคแสดงความจำนงอย่างเป็นทางการในการประสงค์จะเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 เมษายน 2561 ผู้ไม่แจ้งความจำนงในเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าเป็นการสิ้นสภาพการเป็นสมาชิกไปนั้น ทำให้พรรคการเมืองหวั่นว่าจะมีเจตนารีเซ็ตสมาชิกพรรค

วันนี้ (25 ธ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า พรรคใหญ่ที่สมาชิกจำนวนมาก เช่น ประชาธิปัตย์ที่มีสมาชิกถึง 2,700,000 คน หรือ พรรคเพื่อไทยที่สมาชิก 130,000 คน ได้ออกมาส่งเสียงดังว่าการออกประกาศดังกล่าว เป็นเจตนาของการรีเซ็ตสมาชิกพรรค เพราะเวลาสั้นๆ คงไม่สามารถจัดการทางธุรการให้เกิดความเรียบร้อยได้ ยิ่งต้องมีการยื่นหลักฐานต่างๆ ยิ่งต้องมีการชำระเงิน เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้

นายสมชัย ยังกล่าวว่า หากมองภาระในด้านสมาชิกพรรคการเมืองภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับใหม่ พรรคที่มีสมาชิกมาก กลับมีภาระมากมายนับแต่การจัดเก็บหลักฐานทะเบียนสมาชิก ซึ่งกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามอะไรต่างๆเกือบ 20 ข้อ การจัดเก็บค่าสมาชิกรายปี การจัดประชุมสมาชิกเพื่อกำหนดนโยบายและการคัดสรรผู้สมัครที่เรียกว่าไพรมารีโหวต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภาระและค่าใช้จ่าย

“ประวัติศาสตร์การเมืองในอดีตเป็นตัวพิสูจน์ว่า จำนวนสมาชิกมิใช่ปัจจัยชี้ขาดในการชนะการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ที่มีสมาชิกมากกว่าพรรคเพื่อไทยถึง 20 เท่า ก็ยังพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง พรรคมหาชนที่มี นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ที่มีสมาชิกกว่าล้านคน ก็ยังได้ ส.ส.แค่ 2 ที่ หัวหน้าพรรคคือ นายเอนก ที่เป็นลำดับหนึ่งในบัญชีรายชื่อยังไม่ได้รับการเลือกตั้ง ดังนั้น อย่าได้คิดว่า การมี สมาชิกมาก จะเป็นปัจจัยได้เปรียบในการเลือกตั้ง”นายสมชัยกล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า หากพิจารณาจากจำนวนสมาชิกที่เพียงพอสำหรับการมีคุณสมบัติส่งประกวดในการเลือกตั้งครั้งแรกที่จะเกิดขึ้นภายใต้กฎหมายใหม่  คิดว่าจำนวนที่เหมาะสมสุด ปลอดภัยสุด และจัดการได้ง่ายสุด คือ ประมาณ 10,000 คน เพราะบทเฉพาะกาลของพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดให้ พรรคที่จะส่ง ส.ส.ในเขตใด ต้องมีตัวแทนในระดับจังหวัด และมีการทำไพรมารีโหวตในจังหวัดนั้นๆ โดยต้องมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมอย่างน้อย 100 คน ดังนั้น จำนวนที่ปลอดภัยป้องกันการถูกร้องเรียนภายหลังในเรื่องคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประชุม คือ 130 คน คูณ 77 จังหวัด ได้ 10,010 คน หรือประมาณ 10,000 คนเท่านั้น

"ท่ามกลางเสียงเอะเอะโวยวายแสดงความไม่พอใจต่อการรีเซ็ตสมาชิกพรรคที่แยบยลของคำสั่ง คสช. 53/2560 ในมุมลึกที่สุดของพรรคการเมืองใหญ่ อาจมีสุมาอี้ทางการเมืองหัวเราะเสียงดัง ว่าทุกอย่างช่างสอดคล้องกับสิ่งที่มุ่งหวัง ซ้ำยังไม่เปลืองเรี่ยวแรงตนในการจัดการใดๆ ขอบคุณ ขงเบ้งแห่ง คสช.จริงๆ”นายสมชัย กล่าว