ไม่พบผลการค้นหา
หน่วยสืบสวนกลางของสหรัฐฯ ขอพบกลุ่มชาวรัสเซียและชาวเบลารุสซึ่งถูกจับกุมที่พัทยา หลังจาก 2 ใน 10 ของผู้ถูกจับกุมอ้างว่ามีเบาะแสบ่งชี้ กรณีรัฐบาลรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2559

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง หรือ 'เอฟบีไอ' ของสหรัฐฯ ได้พยายามติดต่อขอพบ 'อนาสตาเชีย วาชูเควิช' นางแบบและหญิงบริการชั้นสูงชาวเบลารุส วัย 21 ปี รวมถึง 'อเล็กซานเดอร์ คิริลลอฟ' ชาวรัสเซียผู้ประกาศตัวว่าเป็นกูรูด้านเซ็กส์ ซึ่งถูกจับกุมพร้อมพรรคพวกอีก 8 คนเมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากทั้งหมดลักลอบเปิดคอร์สสอนเทคนิคทางเพศที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา 

การจับกุมบุคคลทั้งสองรายกลายเป็นข่าวดังเนื่องจาก 'อเล็กเซีย นาวัลนี' แกนนำฝ่ายค้านรัสเซียเปิดเผยว่า วาชูเควิชและคิริลลอฟ อาจเป็นพยานรู้เห็นการพบปะกันระหว่าง โอเล็ก ดีรีปาสกา มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย และเซอร์เก ปรีคอดโค รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายต่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2559

อย่างไรก็ตาม ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าคำร้องของเอฟบีไอเพื่อเข้าพบวาชูเควิชและคิริลลอฟถูกปฏิเสธโดยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากกฎหมายไทยระบุว่าผู้มีสิทธิ์เข้าพบผู้ถูกกักตัวใน ตม.จำกัดแค่ที่ปรึกษาทางกฎหมายและสมาชิกในครอบครัวของผู้ต้องกักเท่านั้น ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยระบุว่าทราบเรื่องที่สื่อมวลชนรายงานเรื่องการขอเข้าพบผู้ถูกจับกุมทั้งสองราย แต่ขอยืนยันว่าสถานทูตเคารพต่อกฎหมายไทย และไม่ขอออกความเห็นต่อกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ วาชูเควิชเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่ง คือ 'นาสเตีย ริบกา' ขณะที่คิริลลอฟมีอีกชื่อ คือ 'อเล็กซ์ เลสลีย์' ทั้งคู่ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกเพื่อขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ หลังจากถูกจับกุมที่พัทยาและถูกส่งตัวมายังห้องกักของ ตม.ในกรุงเทพฯ เมื่อปลายเดือน ก.พ. โดยอ้างว่ามีหลักฐานบ่งชี้ว่ารองนายกรัฐมนตรีรัสเซียและมหาเศรษฐีดีริปาสกา ลอบพบกับชาวอเมริกัน 3 รายในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่สหรัฐฯ และวาชูเควิชเป็นที่รู้จักในฐานะ 'ชู้รัก' ของดีริปาสกา ทั้งยังเคยตีพิมพ์หนังสือชีวประวัติพาดพิงมหาเศรษฐีชาวรัสเซียมาก่อน แต่ล่าสุด ดีริปาสกาได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับวาชูเควิชหรือคิริลลอฟ

นาสเตีย ริบกา

อย่างไรก็ตาม วาชูเควิชและคิริลลอฟย้ำว่ามีหลักฐานทั้งภาพและวิดีโอยืนยันข้อเท็จจริง และอาจใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดตัวแทนรัฐบาลรัสเซียที่เข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้ แต่ทั้งคู่ขอลี้ภัยไปสหรัฐฯ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการส่งมอบข้อมูลดังกล่าวให้ทางการสหรัฐฯ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และทางการไทย รวมถึงรัฐบาลรัสเซีย ต่างก็ตั้งข้อสงสัยว่าผู้ต้องกักทั้งคู่อาจไม่ได้มีข้อมูลตามที่กล่าวอ้าง

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยระบุว่าวาชูเควิช คิริลลอฟ พร้อมด้วยพรรคพวก ถูกจับกุมในข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ลักลอบเข้าเมือง และอยู่เกินกำหนดวีซ่า ขณะที่ซีเอ็นเอ็นรายงานเพิ่มเติมว่าผู้ต้องกักทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปยังประเทศภูมิลำเนา แต่เจ้าหน้าที่ ตม.ไทยรายหนึ่งระบุว่า ถ้ามีการยื่นเรื่องขอให้ส่งตัวไปยังประเทศที่สาม จะต้องดูเงื่อนไขประกอบว่าเข้าข่ายที่จะส่งตัวไปได้หรือไม่

ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยเคยส่งตัวชาวรัสเซียรายหนึ่งให้แก่สหรัฐฯ คือ วิกเตอร์ บูท นักธุรกิจซึ่งถูกจับกุมในไทยเมื่อปี 2551 ในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีค้าอาวุธ โดยทางการไทยส่งตัวบูทไปยังสหรัฐฯ เมื่อปี 2553 เพื่อเข้ารับการพิจารณาคดีในชั้นศาล ซึ่งสหรัฐฯ ตัดสินลงโทษจำคุกบูทในข้อหาจำหน่ายอาวุธให้กลุ่มติดอาวุธฟาร์กในโคลอมเบียซึ่งสังหารเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เสียชีวิต แต่บูทยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์และถูกใส่ร้าย ปัจจุบันเขาถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐอิลลินอยส์

อ่านเพิ่มเติม: