ไม่พบผลการค้นหา
พรรคประชาชาติ ชูนโยบาย 5 อ. และไม่เอา 1 อ. คือ อยุติธรรม พร้อมประกาศจุดยืนประชาธิปไตยไม่เอาการสืบทอดอำนาจและเผด็จการ โดยเปิดเวทีปราศรัยแรกในเมืองหลวง คนร่วมฟังนับพัน

พรรคประชาชาติจัดการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกในกรุงเทพมหานคร ที่ลานหน้าสำนักงานพรรค ถนนสรงประภา 30 เขตดอนเมือง นำโดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค, พลตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานครของพรรค โดยมีผู้สนับสนุนและสมาชิกร่วมฟังปราศรัยมากกว่า 1 พันคน

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าพรรคประชาชาติ มีความเป็นพหุวัฒนธรรมและเป็นของคนทั้งประเทศ มีสมาชิก 18,000 กว่าคนจากทั่วทุกภาค รองหัวหน้าพรรค 10 คนนับถือพุทธถึง 6 คน นับถือคริสต์ 1 คนและอิสลาม 3 มุสลิม ส่วนกรรมการบริหารก็มีหลายศาสนาและชาติพันธ์ุ พร้อมยืนยันถึงความพร้อมในการลงสนามเลือกตั้ง ที่จะส่งผู้สมัคร 216 เขต เขต มากสุดคือภาคอีสาน 87 เขต รองลงมาคือภาคใต้ทั้งหมด 50 เขต ภาคเหนือ 28 เขต ภาคกลาง 23 เขต ส่วนกรุงเทพมหานครส่ง 30 เขต 

หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวด้วยว่า ถ้าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยจะสามารถแก้ไขทุกปัญหาของประเทศ ได้ เพราะผู้แทนจากการเลือกตั้งจะเข้าใจสภาพปัญหาและเข้าใจประชาชน ที่สำคัญต้องร่วมกันทำให้ผู้ที่ไม่สนับสนุนประชาธิปไตยออกจากระบบการเมืองไทย 

ขณะที่พลตำรวจเอกทวี กล่าวว่าปัญหาในสังคมเกิดจากการเมือง ซึ่งมี 2 ระบบคือประชาธิปไตยกับเผด็จการซึ่งแตกต่างและตรงข้ามกันอย่างชัดเจน ซึงคนไทยมีบทเรียนแล้วว่าเผด็จการไม่สามารถแก้ปัญหาของชาติได้ ขณะที่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นตั้งอยู่บนพื้นฐานที่เผด็จการออกแบบมา รัฐสภาในอนาคตก็ยังไม่ถือเป็นประชาธิปไตย จากที่มี ส.ว.แต่งตั้ง 250 คนที่พร้อมจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือการสืบทอดอำนาจ ร่วมกับพรรคการเมืองบางพรรคที่ถูกจัดตั้งมารองรับ ดังนั้น หนทางของประชาชนที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยยังอีกยาวไกล 

เลขาธิการพรรคประชาชาติ ย้ำว่าพรรคให้ความสำคัญกับความเชื่อที่ว่าคนทุกคนมีคุณค่า มีศักดิ์ศรีและมีความความเท่าเทียมกัน จึงส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม คือวัฒนธรรมแห่งความเท่าเทียมของคนทุกเชื้อชาติศาสนา พร้อมเสนอแนวนโยบาย 5 อ.และไม่เอา 1 อ. ประกอบด้วย

 1. อาหาร ทุกคนต้องเข้าถึงปัจจัย 4 อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน 2. อาชีพ ทุกคนมีกรรมสิทธิ์ในที่ทำกินและอยู่อาศัย 3. อนามัย ให้ประชาชนทุกพื้นที่มีโรงพยาบาลและหมอคุณภาพ 4. โอกาส โดยเฉพาะการศึกษาและปกครองตัวเองหรือกระจายอำนาจ ซึ่งกรุงเทพฯ ต้องมีการเลือกตั้งผู้อำนวยการเขต และ 5.อัตลักษณ์ คือ เคารพความแตกต่างและที่ไม่เอา 1 อ.คือ ความอยุติธรรม พร้อมกันนี้ยืนยันว่า จะผลักดันเบี้ยผู้สูงอายุซึ่งถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ต้องได้รับให้เกินเส้นความยากจนคือคนละ 3,000 บาทต่อเดือน