ไม่พบผลการค้นหา
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่ง หากจะให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นดำเนินไปอย่างเป็นธรรม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “เยาวชนคนหนุ่มสาวกับอนาคตประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง - ความฝัน ความหวัง ความจริง และความรู้จริง" ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต โดยมีผู้ร่วมรับฟังจำนวนกว่า 500 คน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า นักศึกษาถือเป็นอนาคตของชาติที่สามารถกำหนดทิศทางและช่วยพัฒนา หรือ เปลี่ยนแปลงประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งพรรคการเมืองที่มีนโยบายตอบโจทย์กับความต้องการของตัวเอง เพราะนักศึกษาทุกคนมีความฝันที่อยากให้เป็นจริง ฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยให้ความฝันเป็นจริงได้คือ การทำให้ประชาธิปไตยมีเสรีภาพมากที่สุด และการเลือกตั้งจะต้องมีความเป็นธรรมอย่างแท้จริง

แต่ปัจจุบันตัวเองยังไม่มั่นใจว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในครั้งนี้มีความเป็นธรรมอย่างแท้จริงหรือไม่ เนื่องจากผู้มีอำนาจรัฐได้เข้ามาเป็นผู้เล่นในการแข่งขัน อีกทั้งสามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการมีมาตรา 44 ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการกดดันองค์กรอิสระอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.

เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาล คสช. เคยใช้มาตรา 44 ปลดคณะทำงานของ กกต. มาแล้ว การใช้อำนาจของ คสช. จึงมีความเสี่ยงที่ทำให้การเลือกตั้งเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น ฉะนั้นหากจะให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะมีความเป็นธรรม ผู้มีอำนาจในรัฐบาล คสช. ควรลาออกจากตำแหน่งและเข้าสู่การเมืองแบบเปิดเผย โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทาง กกต. หรือ ผู้มีอำนาจ พยายามออกกฎกติกามากมาย เพื่อลดอำนาจของพรรคการเมือง ไม่ให้พรรคการเมืองชนะการเลือกตั้งแบบเด็ดขาด โดยเฉพาะการกำหนดเบอร์พรรคการเมืองในบัตรเลือกตั้งที่แต่ละเขตไม่เบอร์ไม่เหมือนกัน ทำให้การหาเสียงของพรรการเมืองทำได้ยากขึ้น เนื่องจากต้องทำความเข้าใจว่า แต่ละเขตพรรคของตนเองได้เบอร์อะไร อีกทั้งพฤติกรรมดังกล่าวยังทำให้ประชาชนเองเกิดความสับสนในการเลือกพรรคการเมืองที่ตัวเองชี่นชอบ

เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองที่ไม่ใช่พรรคของรัฐบาล คสช. จึงไม่มีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งได้เลย เพราะการที่พรรคการเมืองจะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 375 เสียง และ ยังมีการออกกฎหมายใหม่ให้สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. สามารถโหวตเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีได้ ทำให้พรรคการเมืองอื่นแทบไม่มีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งได้เลย เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า สว.ทั้ง 250 คน ถูกเลือกมาโดยรัฐบาล คสช.   

นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าพรรคการเมืองจะชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่สามารถบริหารประเทศได้อย่างเต็มที่ เพราะต้องทำตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยรัฐบาล คสช. ซึ่งโรดแมปดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคต่อการบริหารของรัฐบาลชุดใหม่เป็นอย่างมาก