ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' เผยผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิง อาการปลอดภัยแล้ว ต่อไปฟื้นฟูร่างกาย-จิตใจ แจงดราม่าส่งศพชันสูตรช้าต้องรอผู้ใหญ่ เหตุรอความพร้อมและรอทีมนิติเวชจากส่วนกลางเพราะในพื้นที่มี 2 คน เผยได้ย้ำห้ามมีภาพอัดศพจนล้นรถ

วันที่ 10 ต.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงฯ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตแถลงความคืบหน้าการปฎิบัติการเยียวยาจิตใจ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรง ที่จังหวัดหนองบัวลำภู

อนุทิน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยการบริหารสถานการณ์ของกระทรวงฯนั้น เมื่อตนรับทราบสถานการณ์ในวันที่ 7 ต.ค. ก็ได้โทรศัพท์สั่งการให้ปลัดฯและอธิบดีกรมสุขภาพจิต รีบลงไปดูแลในพื้นที่ทันที 

ทั้งนี้สถานการณ์ล่าสุด ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดอาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว สิ่งต่อไปคือต้องฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจให้กลับมาเป็นปกติ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงรับคนไข้และผู้เสียชีวิตทั้งหมด 37 ราย ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ไว้ทั้งหมด

ส่วนการเร่งเยียวยาสภาพจิตใจ อนุทิน กล่าวว่า ได้มีการขอให้ยกกรมสุขภาพจิตลงไปในพื้นที่ทันที เพราะต้องเร่งเยียวยาสภาพจิตใจญาติคนเจ็บและผู้เสียชีวิตจนกว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะเป็นปกติ และยืนยันจะดูแลให้ดีที่สุด

ส่วนดราม่าว่าหลังเกิดเหตุ ที่ไม่ยอมเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่โรงพยาบาลอุดรฯ ทันทีเพราะต้องรอผู้ใหญ่นั้น อนุทิน ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงคือต้องมีการจัดการ ซึ่งตนยอมรับว่าตนและปลัดได้สั่งการไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องว่า การขนย้ายต้องมีความพร้อมทั้งต้นทาง (ที่หนองบัวลำภู) และปลายทาง(ที่โรงพยาบาลอุดรฯ) ซึ่งตอนนั้นเรากำลังระดมทีมแพทย์นิติเวชเพื่อทำการสูตร เพราะตอนนั้นในพื้นมีเจ้าหน้าที่แค่ 2 คน ดังนั้นต้องระดมทีมแพทย์นิติเวชจากส่วนกลางลงไป ทั้งนี้สิ่งที่ตนเน้นย้ำคือการเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตต้องทำอย่างเหมาะสม สิ่งที่ตนต้องการคือห้ามอัดหรือใส่ร่างเข้าไปในรถจนศพล้นออกมาเหมือนภาพที่เคยเกิดเหตุในภาคใต้ ซึ่งภาพเหล่านั้นจะออกมาสู่สังคมไม่ได้ ฉะนั้นการที่มีผู้เคราะห์ร้ายถึง 37 รายจึงต้องใช้เวลาดำเนินการ

รมว.สาธารณสุข ย้ำว่า ถ้าทำแบบลวกๆ เร่งๆ สิ่งที่เกิดขึ้นภาพก็จะออกมาแบบมีความอลหม่าน ฉะนั้นจึงต้องจัดเตรียมให้พร้อม และสุดท้ายการชันสูตรทั้ง 37 ศพ ก็เสร็จสิ้นภายในช่วง 10 โมงของวันศุกร์ที่ 7 ต.ค. พร้อมระบุว่านี่ไม่ใช่เป็นการปฏิบัติที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะตนได้สั่งให้ปลัดฯ ไปอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว พร้อมย้ำว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจเลย 

ส่วนกรณีที่ประชาชนไล่แม่ผู้ก่อเหตุให้ออกในพื้นที่นั้น พญ.อัมพร กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนไม่มีใครต้องการให้เกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งครอบครัวนี้ก็เป็นครอบครัวที่เจ็บปวดด้วย แม่และครอบครัวผู้ก่อเหตุถือว่าอยู่ในกลุ่มผู้เสี่ยงสูง จากนั้นเราจึงมีการเตรียมการเยียวยาจิตใจด้วย ซึ่งตรงนี้เราก็จะเข้าไปช่วยดูแล แต่ในอนาคตก็เข้ามาช่วยดูแลเรื่องการขยับขยาย แต่ในขณะนี้คนในพื้นที่ต้องประคับประคองจิตใจซึ่งกันและกัน