ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Kick-off ทางม้าลายปลอดภัย วินัยดี “หยุดก่อนทางม้าลาย” ซึ่งเป็นการรณรงค์ร่วมกันระหว่างสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายร่วม 50 หน่วยงาน 

ชัชชาติ กล่าวว่า กทม.ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะภายหลังเหตุการณ์สูญเสียหมอกระต่าย ทั้งนี้ ในพื้นที่กทม. มีทางม้าลายทั้งหมด 2,788 แห่ง โดยที่ผ่านมามีการปรับปรุง 1,286 จุด ด้วยการทาสีส่วนที่เป็นสีแดง 256 จุด สีขาว 1,030 จุด ส่วนไฟจราจรและไฟส่องสว่างตามแยกนั้น เดิมมี 538 แห่ง เราได้ติดตั้งเพิ่มเติมเป็น 540 แห่ง ส่วนการติดตั้งสัญญาณกดปุ่ม เดิมมี 237 แห่ง เราได้ติดตั้งเพิ่มเป็น 271 แห่ง ส่วนสัญญาณไฟกระพริบเตือน จากเดิม 924 แห่ง ได้ติดตั้งเพิ่มเติมเป็น 974 แห่ง รวมทั้งหมดในปี 2565 กทม.ได้ทำการปรับปรุงทางม้าลายไปทั้งสิ้น 86 จุด และในปี 2566 ก็จะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมอีก จะเห็นได้ว่า ด้านกายภาพ เราพยายามปรับปรุงเต็มที่

ขณะเดียวกัน ตามแนวคิด School Care เราก็มีเจ้าหน้าที่เทศกิจปฏิบัติหน้าที่หน้าโรงเรียน 526 จุด เป็นโรงเรียนสังกัดกทม. 437 แห่ง โรงเรียนสพฐ. 45 แห่ง โรงเรียนเอกชน 43 แห่ง และจุดอื่นๆ 1 แห่ง ซึ่งจะใช้เจ้าหน้าที่เทศกิจ 574 นายต่อวัน ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 06:30-08:30 น. 

อย่างไรก็ตาม กทม. ไม่สามารถที่จะติดสัญญาณไฟในทางม้าลายได้ทุกจุด เพราะไม่คุ้มกับงบประมาณ แต่จะกำชับให้มีการควบคุมความเร็ว รวมถึงสร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนน เพราะหากประชาชนไม่มีจิตสำนึก ติดสัญญาณไฟไปก็ไร้ประโยชน์

เรื่องการบังคับใช้กฎหมายก็สำคัญ โดยตามอำนาจกทม. ตอนนี้เรามีการทดสอบปรับลดความเร็วบริเวณชุมชนหรือทางม้าลายอยู่ 5 จุด กำหนดไว้ให้อยู่ใต้ความเร็ว 30 กม./ชั่วโมง ส่วนการจับ-ปรับเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสิ่งที่กทม.อยากนำเรียน พล.อ.อนุพงษ์ เป็นพิเศษ ชัชชาติ ระบุว่า “เรียนท่านว่า ได้ไปพบ ผู้ว่าฯ ปทุมธานี มา ขออนุญาตหารือกันโดยตรงกับผู้ว่าฯในจังหวัดปริมณฑล เพื่อความสะดวกในการประสานงาน”

จากนั้น เป็นกิจกรรมปล่อยขบวนรถรณรงค์ ด้านหน้าศาลาว่าการกทม. เพื่อสร้างจิตสำนึกผู้ขับขี่ให้หยุดรถตรงทางม้าลาย ประกอบด้วยขบวนรถจักรยานยนต์ 12 คัน รถสามล้อ 10 คัน และรถแท็กซี่ 4 คัน