เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ม.ค. 2565 ที่ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา หรือ เชิงสะพานไม้ 2 เขตหลักสี่ กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ หรือ 'มาดามหลี' ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตหลักสี่-จตุจักร หมายเลข 7 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงที่ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา หรือ ชุมชนเชิงสะพานไม้ 2 และใกล้เคียง โดยบรรยากาศพบว่าชาวชุมชนต่างมานั่งรอต้อนรับการมาเยือนของ พล.อ.ประวิตร พร้อมมีการทำป้ายเขียนข้อความ อาทิ "ลุงป้อมสู้สู้” “ขอเป็นกำลังใจให้ลุงป้อม” “เชียร์เบอร์7" เป็นต้น

โดยตัวแทนชุมชน เปิดเผยว่า ดีใจที่ พล.อ.ประวิตร มาเยี่ยม จากสมัยก่อนชุมชนอยู่กันอย่างแออัด แต่ปัจจุบันมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้กระทั่งเรื่องยาเสพติดก็แทบจะไม่มีภายในชุมชน 

อย่างไรก็ตามในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา มีคนในชุมชนติดโควิด-19 กว่า 100 คน จึงปรับเปลี่ยนและสร้างพื้นที่ในชุมชนเป็นศูนย์พักคอยและ สิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ได้นำยาและข้าวของเครื่องใช้มาให้โดยตลอด พร้อมกันนี้ขอบคุณ สิระ ที่ให้ความช่วยเหลือและยังอนุเคราะห์ติดกล้องวงจรปิด สร้างความปลอดภัยในชุมชนให้ด้วย

ด้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้ก็ดีใจที่ได้มาเยี่ยมเยียนชุมชนสะพานไม้ พร้อมยืนยันว่า จะทำให้ความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้นอย่างแน่นอน และขอย้ำว่าภายใต้การดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ดูแลประชาชนมามากกว่า 7 ปีแล้วนั้น จากนี้จะพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นต่อไป ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตนี้เลือกเบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ ก่อนเดินเข้าทักทายชาวชุมชนสะพานไม้ที่มานั่งรอต้อนรับอยู่สองฝั่งของเวที

ผู้สื่อข่าว ‘วอยซ์’ รายงานว่า ระหว่างที่พล.อ.ประวิตร ทักทายประชาชนอยู่นั้น มีตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟเดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประวิตร เพื่อต้องการให้ไปรับหนังสือและมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภาคประชาชนที่หน้าที่ทำการสหประชาชาติหรือยูเอ็นประจำประเทศไทย ซึ่งพีมูฟปักหลักชุมนุมรออยู่กว่า 5 วันแล้ว

โดยมี อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวงคมนาค พร้อมด้วย สิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวแทนรับหนังสือแทนพล.อ.ประวิตร ไว้ก่อน 

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกำลังเดินทางกลับ สื่อมวลชนพยายามสอบถามว่า ได้พูดคุยกับพลเอกประยุทธ์หรือยัง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่แล้ว หลังเหตุการณ์ขับ 21 ส.ส. ออกจากพรรคพลังประชารัฐ

“คุยตลอด และคุยทุกวัน สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไร ไม่มีอะไรต้องรับมือ เพราะพรรคผมทั้งนั้น” โดย พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามว่าจะต้องทบทวนมติพรรคหรือไม่

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะลงพื้นที่ช่วยสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 หมายเลข 7 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงที่ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา (สะพานไม้2) มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางมาพร้อมกับ รุ่งโรจน์ อิบรอฮีม ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 หมายเลข 5 พรรคไทยศรีวิไลย์ โดยระบุว่า จะขอเข้าไปภายในชุมชนเพื่อแนะนำผู้สมัคร ไม่มีเจตนาเข้าไปก่อกวนหรือป่วนงาน ทำให้ประธานชุมชนต้องเข้ามาเจรจาว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการจัดกิจกรรม ไม่สามารถผ่านได้ และแนะนำให้เลี่ยงใช้เส้นทางอื่นที่ แต่ มงคลกิตติ์ ยืนยันจะเข้าไปหาเสียง ทำให้มีประชาชนออกมาตะโกนไล่ว่า “ไม่ต้อนรับ” จนเกิดการโต้เถียงเล็กน้อย ก่อนที่มงคลกิตติ์ จะยอมกลับ

มงคลกิตติ์ กล่าวว่า โดยหลักกฎหมาย การจะห้ามเข้าพื้นที่สาธารณะต้องมีคำสั่งราชการ ประธานชุมชนจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ต้องให้ทุกพรรคได้เข้าหาเสียง ทำแบบนี้ไม่ได้ จะใหญ่จากไหน ก็มาทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะเป็นทางสาธารณะ จะเป็น พล.อ.ประวิตร ก็ปิดไม่ได้