ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์เฟซบุ๊ก หลังร่วมงานรำลึก 47 ปี 6 ตุลา 19 ระบุว่า นอกจากองค์กรตามสถานะ ส่วนใหญ่ในงานคือคนต่างยุค ทั้ง 16 , 19 , 35 , 53 , และ 63-ปัจจุบัน ที่ต่างมีเรื่องราว บาดแผล จากการต่อสู้ในวาระของตัวเอง 

แม้เวลาเกือบครึ่งศตวรรษ อาจทำให้หล่มแผลบนบรรทัดประวัติศาสตร์ตกสะเก็ดไปได้บ้าง แต่การกระทำซ้ำต่อประชาชน โดยขบวนการอำนาจนิยม ก็ส่งผลให้โศกนาฏกรรมกลางเมือง เป็นทั้งแผลเก่า แผลใหม่ และแผลอักเสบ ในสังคมไทย 

ความพยายามเอื้อมคว้ากระบวนการยุติธรรม เพื่อรักษาแผลเก่า และป้องกันแผลเกิดใหม่ จึงเป็นภาระหน้าที่ร่วมกันของหลายฝ่าย ที่เรียกร้อง ผลักดันกันมาตลอด

หนึ่งในนั้นคือการทวงถามความยุติธรรม ในเหตุปราบปรามประชาชนเมื่อปี 2553 ซึ่งขณะนี้ช่องทางหนึ่งที่ทำได้ กำลังเดินหน้าในกระบวนการของรัฐสภา 

หลังจากส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าชื่อยื่นร่างแก้ไข พรป.ปปช. และ พรป.วิธีพิจารณาความในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อประธานรัฐสภา และผ่านการตรวจสอบความถูกต้องตามขั้นตอน ขณะนี้ร่างกฎหมายอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น จากองค์กรที่เกี่ยวข้อง ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญปัจจุบัน 

ร่างแก้ไขพรป.ปปช. เปิดรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 66 น่าจะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน ปัจจุบันมีผู้ร่วมแสดงความเห็น 4 คน

ร่างแก้ไขพรป.วิธีพิจารณาความในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 66 น่าจะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน ปัจจุบันมีผู้ร่วมแสดงความเห็น 2 คน

เมื่อผ่านขั้นตอนนี้ ก็จะบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมรัฐสภาต่อไป

นอกจากส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ทำความเข้าใจ เห็นชอบร่วมกันตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และพ.ต.อ.ทวี พรรคประชาชาติ ที่พูดคุยกันไปก่อน ผมใช้วาระที่เพื่อนมิตรมาเยือนร้านเยี่ยมใต้ อธิบายหลักการพร้อมส่งเนื้อหาของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับให้พิจารณา และขอเสียงสนับสนุน

ส.ส.วิโรจน์ พรรคก้าวไกล เห็นด้วย รับดำเนินการบอกกล่าวเพื่อนสมาชิก น.ต.ศิธา พรรคไทยสร้างไทย ก็เช่นเดียวกัน 

ร่างกฎหมายนี้เป็นวาระประชาชน ผมจะประสานงานกับทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมทั้งส.ว. คู่ขนานไปกับกระบวนการในรัฐสภา หวังใจอย่างยิ่งว่าจะได้เสียงพอ ผ่านกฎหมายบังคับใช้

เพื่องานรำลึกปีถัดไป จะได้ถามไถ่กันในงาน ว่าคดีปี 53 ที่ญาติคนเจ็บคนตายฟ้องศาลเองได้ คืบหน้าไปถึงไหน

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

พนักงานเสิร์ฟ