ไม่พบผลการค้นหา
'แทนคุณ' จวก 'ธาริต' บิดเบือนคดี 99 ศพ ละเลยไม่แสวงหาข้อเท็จจริง อ้าง 'สุเทพ-อภิสิทธิ์' ถูกป้ายสี ทั้งที่เสียสละต้านนิรโทษกรรมสุดซอย

วันที่ 11 ก.ค. แทนคุณ​ จิตต์​อิสระ​ รักษา​การ ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ​ พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณี ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก​ 2 ปีตามมาตร​า 157 ปฏิบัติ​หน้าที่มิชอบ เพราะเหตุว่าตลอด​ระยะเวลา​ที่ผ่านมา ธาริตไม่พยายาม​แสวงหา​ข้อเท็จจริง​อย่างตรงไปตรงมา​ ทั้งที่มีอำนาจ​เต็ม​ในห้วงเวลาที่พรรคเพื่อไทยเป็น​รัฐบาล​ ตั้งแต่ปี 2554 -2557 โดยย่อมได้รับความคุ้มครองและสนับสนุน​ให้แสวงหาข้อเท็จจริง​เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้เกิดการสูญเสีย 

ทว่า ธาริต กลับใช้อำนาจ​โดยมิชอบไปฟ้องผิดศาลบ้าง แถลงข่าวพาดพิงบิดเบือนให้ร้ายบ้าง โดยเฉพาะประเด็นที่บอกว่ามีนายทหารมาข่มขู่ จนเกิดการรัฐประหารในปี 2557 เกิดหลังจากการสลายการชุมนุม​ถึง 4 ปี โดยพรรคเพื่อไทยในฐานะ​รัฐบาล​ในขณะนั้น​ได้ออกกฎหมาย​นิรโทษกรรม​สุดซอยเพื่อล้างผิดให้คนฆ่า คนเผา รวมถึงคนโกง คนทุจริต ถือเป็น​การซ้ำเติมกระบวนการ​ค้นหา​ความจริง​ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความรู้สึก​ของผู้ที่ตั้งตารอคอยความ​ยุติธรรม​ 

"กลับกลาย​เป็น​​ อภิสิทธิ์​ เวชชาชีวะ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ออกมาต่อต้านการออกกฎหมาย​ดังกล่าว​ ทั้งที่ถ้ากฎหมาย​ผ่านก็จะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์​ด้วย แต่ทั้งสองคนไม่เคยเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมให้กับตนเองไม่เคยปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ต่อสู้คดีจากข้อกล่าวหาและยืนบนหลักการสำคัญในการพิสูจน์ความจริงจนสิ้นกระแสความแล้วจากกระบวนการยุติธรรม จากคณะกรรมการ ป.ป.ช."

การพิสูจน์ความจริงผ่านกระบวนการยุติธรรมนั้น ทั้ง 3 ศาลและ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่มีอำนาจโดยตรง โดยผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับฟังเป็นที่ยุติว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุผล 'อยู่ในช่วงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาของศาลว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช. มิใช่การชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ และมีบุคคลที่มีอาวุธปืนปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. จึงมีเหตุจำเป็นที่ ศอฉ. ต้องใช้มาตรการขอพื้นที่คืน เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง โดยมีคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่นำอาวุธติดตัว หากมีความจำเป็นสามารถนำมาใช้เพื่อระงับยับยั้งได้ไปตามสถานการณ์ หรือเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือป้องกันตนเองได้ อันเป็นไปตามหลักสากล ตามนัยคำพิพากษาศาลแพ่ง ในคดีหมายเลขดำที่ 1433/2553'

และศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้ในคดีเลขที่ 1699/2560 ว่า 'การกระทำของ อภิสิทธิ์ และ สุเทพ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง' ดังนั้น​จึงขอให้พี่น้อง​ประชาชน​ที่ต้องการ​ความยุติธรรม​ได้เข้าใจข้อเท็จจริง​และดำเนินคดี​กับคนที่ทำให้กระบวนการ​ค้นหาความ​จริงดังกล่าว​ต้องสิ้นสุดลงในลักษณะ​นี้