ไม่พบผลการค้นหา
ทางการเมียนมาอพยพประชาชนราว 5 หมื่นคน หลังจากเขื่อนส่งน้ำชลประทานแตกบริเวณภาคกลางของประเทศ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการเมียนมาอพยพประชาชนกว่า 50,000 คนออกจากบ้านเรือน หลังจากสปิลเวย์ของเขื่อนชลประทานพังลงมา ส่งผลให้น้ำจากเขื่อนดังกล่าวไหลเข้าท่วมเมืองสวอร์และถนนสายหลักที่เชื่อมต่อนครย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ และกรุงเนปิดอว์ รวมไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงประมาณ 100 หมู่บ้านทางตอนกลางเมียนมา 

ชาน เนียนธุ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานการจัดการภัยพิบัติภูมิภาคกล่าวเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) ว่า 'ประชาชนกว่า 5,400 คนถูกอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยในใกล้เคียงเมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานนี้'

ขณะที่ออง ฮัลมิน เจ้าหน้าที่บริหารทั่วไประบุว่า 'มีประชาชนกว่า 1,500 คนถูกโยกย้ายให้ไปอยู่ในที่พักชั่วคราวในบริเวณที่ไม่ได้ผลกระทบในเมืองทากายา'

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทางการเมียนมาระบุว่า การเดินทางไประหว่างเมืองต่างๆ นั้นให้กลับไปใช้เส้นทางสัญจรเส้นเก่าเป็นการชั่วคราว และมีการปิดพื้นที่บริเวณสะพานสัญจรระหว่างนครย่างกุ้งและเมืองมัณฑะเลย์ชั่วคราวเช่นกัน เนื่องจากน้ำจากเขื่อนชลประทานไหลท่วมใต้สะพานอย่างเชี่ยวกราก


000_18O4Y6.jpg

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ขณะที่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมียนมาเพิ่งเผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 100,000 คน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน

เมียนมาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแผนการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานน้ำส่งขายให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยและจีนหลายเขื่อน นเดียวกับ สปป.ลาว ที่เกิดเหตุการณ์เขื่อนแตกในแขวงอัตตะปือเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 39 ราย สูญหายอีก 97 ราย และประชาชนกว่า 4,000 คนยังไร้ที่อยู่อาศัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: