ทางการของเมืองมารีอูปอลกล่าวหาว่า รัสเซียได้ซ่อนหลักฐาน “ความป่าเถื่อน” ในการก่ออาชญากรรมสงครามในเมืองท่าทางตอนใต้ของยูเครน ด้านการฝังหมู่ศพของประชาชนที่ถูกรัสเซียสังหารจากการระดมทิ้งระเบิดในเมืองอย่างหนักตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
วาดิม บอยเชนโก ผู้ว่าการเมืองมารีอูปอลระบุว่ารถบรรทุกของรัสเซียทำการขนศพตามท้องถนนของเมืองมารีอูปอลไปยังหมู่บ้านแมนฮูช ก่อนที่ศพของประชาชนชาวยูเครนเหล่านั้นจะถูกนำไปฝังหมู่ในพื้นที่ใกล้กันกับสุสานเก่าแห่งหนึ่งของหมู่บ้าน
“ผู้รุกรานได้ปกปิดหลักฐานอาชญากรรมของตนเอง สุสานตั้งอยู่ใกล้กันกับปั๊มน้ำมันในทางตอนซ้ายของถนนรอบวงเวียน รัสเซียทำการขุดหลุมขนาดใหญ่กว้าง 30 เมตร พวกเขาโยนร่างคนลงไป” บอยเชนโกระบุ ทั้งนี้ ภาพถ่ายดาวเทียมของบริษัท Maxar ของสหรัฐฯ เปิดเผยให้เห็นภาพที่สอดคล้องกันกับข้อกล่าวหาจากทางยูเครนต่อรัสเซีย
Maxar บริษัทของสหรัฐฯ ระบุว่า ภาพถ่ายดาวเทียมเปิดเผยให้เห็นถึงหลุมศพที่ถูกขุดขึ้นใหม่กว่า 200 หลุม หากเปรียบเทียบภาพถ่ายดาวเทียมในวันที่ 31 มี.ค. กับ 3 เม.ย. ทั้งนี้ ผู้ว่าการเมืองมารีอูปอลคาดการณ์ว่าอาจมีประชาชนชาวเมืองกว่า 20,000 รายที่ถูกองทัพรัสเซียสังหารลงนับตั้งแต่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียสั่งให้กองทัพของตนเข้ารุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยูเครนระบุว่าร่างของประชาชนที่เสียชีวิตลงหลายรายถูกกำจัดด้วยรถเผาศพเคลื่อนที่ของรัสเซีย
บอยเชนโกปฏิเสธคำกล่าวอ้างว่าปูตินที่ว่ากองทัพรัสเซียได้เข้ามา “ปลดปล่อย” เมืองมารีอูปอล ทั้งนี้ ผู้ว่าการเมืองมารีอูปอลยืนยันว่าทหารยูเครนยังคงป้องกันโรงงานเหล็กอซอฟสตอลได้อยู่ ซึ่งมีประชาชนติดอยู่ภายในประมาณ 300-1,000 ราย โดยส่วนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก
ชาติตะวันตกคาดการณ์ว่า มีกำลังของรัสเซียอยู่ในเมืองมารีอูปอลประมาณ 5,000-10,000 นาย บางจำนวนยกพลขึ้นตอนเหนือและเข้าล้อมภูมิภาคดอนบาสของยูเครนตะวันออกได้แล้ว ทั้งนี้ กองกำลังของยูเครนมีน้อยกว่ารัสเซียกว่าสามเท่าตัว
ผู้ว่าการเมืองมารีอูปอลย้ำว่า มีประชาชนติดอยู่ในเมืองมารีอูปอลราว 100,000 ราย โดยประชาชนอีก 100,000 รายสามารถอพยพหนีออกมาจากเมืองได้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่หลบหนีมาด้วยรถส่วนตัว อย่างไรก็ดี มีรายงานพบประชาชนชาวยูเครนอีกประมาณ 40,000 รายที่ถูกรัสเซียบังคับให้อพยพไปยังฝั่งรัสเซียเอง
รัสเซียพยายามอย่างหนักในการเข้ายึดมารีอูปอลให้ได้ เพื่อใช้เมืองดังกล่าวเป็นระเบียงเชื่อมระหว่างไครเมียทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดไปตั้งแต่ปี 2557 เข้ากันกับภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนที่มีรายงานว่าพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียแล้ว
ที่มา: