ไม่พบผลการค้นหา
‘สุชัชวีร์’ประกาศกลางสถานีรถไฟหัวลำโพงขอเปลี่ยนกรุงเทพฯ อาสาแก้ 4 วิกฤตกรุงเทพฯ แก้ปัญหาน้ำท่วม-ทำเน็ตฟรี 1.5 แสนจุด-ปฏิรูปการศึกษา กทม.ไม่ให้แพ้สิงคโปร์-ทำระบบสาธารณสุขให้มีคุณภาพ เพื่อเป็นเมืองสวัสดิการทันสมัยต้นแบบอาเซียน

วันที่ 20 พ.ค. 2565 ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หังลำโพง) สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. 2565 ว่า ตั้งแต่ประกาศตัวลงสมัครผู้ว่าฯ หนักหนาหฤโหดมาก แต่ทุกวันที่กลับบ้านรู้สึกโชคดีเพราะทุกเหตุการณ์ที่เจอสอนอะไรหลายอย่าง ว่างานผู้ว่าฯ กทม. ต้องใช้ทั้งพลังใจ พลังกาย พลังสติปัญญา ซึ่งตนรู้สึกดีแม้เดินไปเกือบ 2 ล้านก้าวเปลี่ยนรองเท้า 4 คู่ เพราะรู้ว่าคน กทม.กำลังรอความหวัง 

นอกจากนี้ สุชัชวีร์ เผยเหตุผลที่เลือกสถานีหัวลำโพง จัดปราศรัยใหญ่ คือ 1.หัวลำโพงเป็นสถานที่ที่คนไทยภูมิใจเพราะเป็นจุดเริ่มต้นรถไฟเส้นแรกในเอเซียที่ทำให้หลายประเทศเห็นว่าไทยมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ 2.สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง ซึ่งเป็นรถไฟใต้ดินสายแรกไทย โดยตนมีส่วนในการร่วมสร้างด้วย 3.สถานที่แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของคนไทยหากจะเข้ามากรุงเทพฯ และ 4.ที่นี่ ณ เวทีแห่งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ

สุชัชวีร์ เชื่อว่า กทม.พร้อมพัฒนา แต่ขาดผู้นำ ฉะนั้นตนจึงมั่นใจว่าเราต้องเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสวัสดิการต้นแบบให้ได้ ด้วยการเปลี่ยนเมืองเปลี่ยนชีวิตคน กทม. 

2EC43AEF-BEE5-4ED3-BE33-636E25353BBA.jpegสุชัชวีร์ -D0F8-4562-822C-C4E1BB169133.jpeg

ทั้งนี้ สุชัชวีร์ ระบุว่าอีกว่ากรุงเทพมีวิกฤต 4 อาทิ 1.) วิกฤตจากภัยธรรมชาติ โดยปัญหาที่น่ากลัวสุดคือเรื่องน้ำ จึงคิดว่าถ้าตนได้เป็นผู้ว่าฯ เมื่อน้ำท่วมคงไม่กล้าให้แค่เพียงลอกท่อลอกคลอง แต่ตนในฐานะวิศวกร รู้ว่าจะแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างไร 

2.) วันนี้คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นเรื่องสำคัญยุคนี้เพราะทำให้ประชาชนเสียโอกาสมาก จึงคิดว่าถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ จะทำอินเทอร์เน็ตฟรี 1.5 แสนจุด เพราะมันควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนกรุง พร้อมประกาศว่าถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ ใน 4 ปีไม่ต้องไปสำนักงานเขตแล้ว ซึ่งนี่จะเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญ พร้อมสัญญาว่าถ้าได้เป็นจะทำทันที

ขณะที่วิกฤตเรื่อง 3.) คือการศึกษา ตนมองว่าหลังยุคโควิด-19 จะเกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ และหาก กทม.ไม่มีความรู้ความเข้าใจ กทม.จะห่างไกลในเรื่องนี้ ตนจึงขอเข้ามาดูแลเรื่องการศึกษาให้ลูกหลาน กทม. เพื่อวางรากฐานให้เก่ง พร้อมประกาศว่าจะปฏิรูปการศึกษา กทม.ไม่ให้แพ้สิงคโปร์

และ 4.) วิกฤตสังคมผู้สูงอายุ ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบแล้ว และอนาคตคาดว่าศักยภาพโรงพยาบาลอาจไม่พอ สถานพยาบาลในระบบสาธารณสุข กทม.ก็ขาดแคลนหมอ ดังนั้นตนในฐานะที่เคยเป็นผู้พัฒนาโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังให้มีคุณภาพ จึงเชื่อว่าถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ จะทำให้ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่งมีคุณภาพและเพิ่มมากขึ้น

ช่วงหนึ่ง สุชัชวีร์ ระบุว่า จะเลือกตามรสนิยมทางการเมืองไม่ได้ แต่ผู้ว่าฯ กทม.ควรต้องมาแก้ปัญหาในเรื่องเหล่าให้ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลวันที่ 22 พ.ค.นี้ต้องเลือก สุชัชวีร์ และ ส.ก. ทั้ง 50 เขตพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัยต้นแบบอาเซียน

ช่วงท้าย สุชัชวีร์ ย้ำว่า วันที่ 22 พ.ค.นี้ ไม่ใช่การเลือกนักการเมือง แต่เป็นการเลือกคนที่ทำได้ ทำเป็น เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาพัฒนา กทม. ซึ่งตนพร้อมที่สุด

C4E0B028-9638-49EE-B0D6-0AD0C1FB460E.jpeg72D95235-CB22-4DF9-9F54-FF3CEAB08199.jpeg46140F48-6EBE-4CB8-83C4-9E03F7BA9CEE.jpeg60ABC700-5D5D-4016-8094-8F268D4BCD34.jpegชัชชาติ -70D4-486E-8F73-79FBEA470ADC.jpeg