ไม่พบผลการค้นหา
'สุชาติ' มองประธานสภาฯ ต้องเป็นหน้าตาให้ ส.ส. 500 คน ให้มีหน้าตาไปพบต่างชาติ เผยถ้าให้เลือก 'พิธา' หรือ 'ประวิตร' เป็นนายกฯ ขออยู่กับลุงป้อม เพราะอีกฝ่ายสุดโต่งเกิน

วันที่ 23 มิ.ย. ที่อาคารรัฐสภา สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางเข้ารายงานตัวต่อรัฐสภา โดยได้กล่าวถึงกระแสข่าวว่า พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 

สุชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ขอปฏิเสธแทนได้เลย เพราะเมื่อเช้าก็คุยกับ พีระพันธุ์ อยู่ จึงอาจเป็นแค่ข่าวลือจากคนไม่หวังดี ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะเดินหน้าอย่างไรต่อนั้น ยืนยันว่า แม้เป็นพรรคเกิดใหม่ แต่มีผู้แทน 36 คน ถือว่าไม่น้อย มีคะแนน 4-5 ล้านเสียง ก็ทำต้องทำพรรคให้แข็งแรงต่อไป

ส่วนแนวทางโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น สุชาติ กล่าวว่า รอดูความชัดเจนว่าพรรคไหนจะเสนอรายชื่อประธานสภาฯ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะเสนอใคร แต่พรรครวมไทยสร้างชาติมีความสามัคคีในพรรคอยู่แล้ว ก็ต้องหารือในพรรคก่อนจะโหวตให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด เพราะการโหวตประธานสภาฯ เป็นการกดปุ่มสตาร์ทเริ่มเปิดสภา

ส่วนกระแสข่าวการเมืองอีกขั้วจะรวบรวมเสียง เพื่อดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น สุชาติ มองว่า การตั้งรัฐบาลตามกรอบรัฐธรรมนูญ ใครที่รวมเสียงได้มากกว่าก็เป็นรัฐบาล แต่ใครจะรวมเสียงได้มากกว่า ตนไม่ได้อยู่ในวงนั้น ถือว่าข่าวก็มีคนช่วยคิดสูตรคำนวณหลายสูตร เป็นสมการได้ทั้งหมด แต่เราไม่สามารถตอบแทนคนอื่นได้ แต่ในส่วนตัวอยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันเราต้องยึดมั่นในกฎหมายมากกว่า

ส่วนที่เริ่มมีการพูดว่าฝั่ง 181 เสียง จะจับมือกับ 250 ส.ว. เพื่อพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะ มองสูตรนี้อย่างไร สุชาติ กล่าวว่า สูตรคำนวนตั้งรัฐบาลมีหลายสูตร ก็อยู่ที่จะออกแบบเป็นอย่างไร ตนจึงไม่กล้าพูด เพราะเราต้องให้พรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลอยู่ จัดตั้งให้ได้ก่อน 

ส่วนปัญหาการแย่งชิงตำแหน่งเก้าอี้ประธานสภาฯ ระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย คิดว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ สุชาติ บอกว่า ต้องถามเขามากกว่า เพราะตนไม่เคยเข้าประชุมกับเขา เราอยู่กันคนละข้างอยู่แล้ว แต่มองว่าตำแหน่งประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องมีความเหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าตาไปมองประเทศอื่นอย่างไร สำหรับความเหมาะสมของตำแหน่งประธานสภาในที่นี้คือ ควรจะเป็นที่ยอมรับของ ส.ส.ทั้ง 500 คน ขณะที่เรื่องของพรรษาทางการเมือง ตนไม่ได้มอง ขึ้นอยู่กับคะแนนโหวตมากกว่า เรายึดมั่นในกติกาของสภา

เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเสนอชื่อประธานสภาฯ แข่งด้วยหรือไม่ สุชาติ กล่าวว่า เรามีมารยาทพอ คง ไม่ทำอย่างนั้น และคาดการณ์ว่าจะเป็นแบบนั้น

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อ สุชาติ ตันเจริญ ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ มีความเหมาะสมหรือไม่ สุชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วเป็นผู้แทนจังหวัดติดกัน รู้จักกัน เรื่องนี้ตอบในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค มองว่าคุณวุฒิ วัยวุฒิ และประสบการณ์ของ สุชาติ ตันเจริญ ก็มีสูง เป็นผู้แทนมาหลาย 10 ปี เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของสภาของบ้านเมือง ถ้าเป็นประธานสภาฯ ตนก็ยอมรับ เพราะตนมาเป็น ส.ส. หลัง สุชาติ ตันเจริญ ซึ่งผ่านอะไรมาเยอะกว่า

เมื่อถามถึงสูตรการจัดตั้งรัฐบาลสูตรที่ 4 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร เลิกเล่นการเมือง จะมีการรวมพรรคระหว่าง พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ เพื่อไทย และภูมิใจไทย กระแสนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่ สุชาติ กล่าวว่า การคิดสูตรคำนวนต่างๆเขาจับมาผสมกันว่าใครได้มากกว่าคือตั้งรัฐบาล ซึ่งก็คิดได้หลายมุม แต่มันเป็นแค่กระแส ความจริงยังไม่ใช่ ต้องอยู่กับปัจจุบันก่อน 

เมื่อถามย้ำว่าหากต้องโหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี จะโหวตให้ใคร สุชาติ กล่าวว่า ตนอยู่กับลุงป้อมที่พรรคพลังประชารัฐมาก่อนแล้ว ตนจะไปโหวตให้ พิธาได้อย่างไร 

"เรามีความคิดคนละมุมกัน เขาสุดโต่งอยู่แล้ว เราคิดไม่เหมือนกัน เราจะอยู่กับเขาได้อย่างไร พร้อมยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีคนมาใช้สิทธิ์เกือบ 40 ล้านคน แล้วจะให้ตนไปอยู่ในฝั่ง 14 ล้านคนหรือ แล้วฝั่ง 27 ล้านคน จะไม่โกรธตนหรือ ตนขออยู่ฝั่ง 27 ล้านคน" สุชาติ กล่าว