ในวิดีโอที่ถูกเผยแพร่บนทวิตเตอร์เมื่อวันจัทร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.) ชาวเมืองกวางโจวออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนในเขตไห่จู นอกจากนี้ในวิดิโอหนึ่งยังแสดงให้เห็นภาพของผู้ชุมนุมที่พลิกรถตำรวจคว่ำด้วยมือเปล่าอีกด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นยังคงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อผู้สื่อข่าว
กวางโจวเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่ประมาณ 19 ล้านคน และเป็นจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แห่งหนึ่งในจีน และในช่วงหลายวันนี้มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างมาก โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นเกิน 5,000 คนเป็นครั้งแรก ทำให้มีการคาดการณ์ว่าการล็อคดาวน์ในเมืองจะทวีความรุนแรงขึ้น
ความตึงเครียดเกิดขึ้นในเขตไห่จูเป็นพิเศษเนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของโรงงานและตลาดขายส่งผ้าจำนวนมาก ที่มีแรงงานจากต่างจังหวัดเข้ามาอาศัยอยู่หลักหมื่น ในขณะที่แรงงานเหล่านั้นจำเป็นต้องเร่งการผลิตผ้าเพื่อให้ทันกับความต้องการของตลาดหลังเทศกาล 11.11 ซึ่งเป็นเทศกาลช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของชาวจีน
ก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมในวันจันทร์ (14 พ.ย.) ชาวเมืองกวางโจวได้ละเมิดข้อกำหนดของรัฐบาลโดยการแอบออกมาขนสินค้าของตนออกจากร้านค้าในเขตไห่จู ซึ่งถูกคณะกรรมาธิการสาธารณสุขของเมืองกวางโจวเรียกว่า “เป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย”
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า แรงงานที่ไม่พอใจได้จัดการชุมนุมประท้วงในเขตอื่นๆ นอกจากไห่จูด้วย ได้แก่เขตคังเล่อ เขตถังเซี่ย และเขตเทียนเหอ
มีผู้ใช้เวยป๋อ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนหลายคน ที่ออกมาโจมตีผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามมีผู้ใช้ที่ออกมาวิจารณ์ว่ามาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐบาลดำเนินในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมากำลังทำให้ผู้คนโกรธแค้นอย่างมาก และเป็นการกีดกันไม่ให้แรงงานจากต่างจังหวัดได้กลับบ้านของตนอีกด้วย
พรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวในวันอังคารที่ผ่านมา (17 พ.ย.) เพื่อตอกย้ำว่า “นโยบายโควิดเป็นศูนย์” จะต้องถูกบังคับใช้อย่างไม่มีเงื่อนไข และกล่าวว่าการเพิ่มความเข้มงวดของนโยบายนั้นเป็นไปเพื่อปรับปรุงนโยบายเพื่อให้สอดรับกับการต่อสู้กับการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ
ที่มา: