ไม่พบผลการค้นหา
'เมียนมาร์' ผ่านเข้ารอบเจอไทย
MAJOR ตั้งเป้า 5 ปี เพิ่มโรงหนังให้ครบ 1 พันโรง
เปิดเส้นทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก
คาราบาวแดง ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ แตะ 9,000 ล้านบาท
Biz Feed - Biz Insight:เครื่องสำอางเกาหลีมุ่งตีตลาดมุสลิมในอาเซียน- Short Clip
คสช.ไม่พบชุมนุมต่อต้านการเมือง
แอร์เอเชียเล็งเปิดสายการบินในเมียนมาร์-เวียดนาม
Clip Biz Feed : ปฏิรูปมาเลเซียแอร์ไลน์ฟื้นฟูภาพลักษณ์ได้? 
ระเบิด 8 จุดปัตตานี ตาย 2 เจ็บ 11
'ประยุทธ์' เปิดการก่อสร้างไฮสปีดไทยจีน 'กลางดง-ปางอโศก' 3.5 กม.
ส.ว.สรรหา 250 คน-อำนาจคุมฝ่ายบริหาร
ภัยแล้งกระทบ 'สวนฝรั่งปทุมฯ' หวั่นยืนต้นตาย
ไทยติดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเยือนญี่ปุ่น
Day Break - ขอนแก่นทดสอบรถไฟลอยฟ้า-พร้อมใช้จริง ก.พ. 2562 - Short Clip
ประชุมแม่น้ำ 5 สาย เตรียมประชามติร่าง รธน.
Wake Up News - AIS พร้อมมอบประสบการณ์ 'Super Block' 28 ก.ย.นี้ - Short Clip
เตรียมอุทธรณ์สั่งประหารชีวิตคดีเกาะเต่า
World Trend - ยูทูบเริ่มปล่อยหนังทั้งเรื่องให้ชมได้ฟรี - Short Clip
พาชมไฮไลท์ Motor Expo 2014
ไทยยืดเวลาวีซ่าเพื่อการรักษาพยาบาล
เวียดนาม ประเทศกำลังพัฒนาระบบจัดการน้ำ
Mar 7, 2016 12:11

เป็นที่รู้กันว่าระบบการจัดการน้ำที่ดีที่สุดในอาเซียนอยู่ที่สิงคโปร์ แต่การเลียนแบบสิงคโปร์อาจจะยากเกินไปสำหรับไทย ดังนั้น เราจะไปดูการจัดการน้ำของประเทศที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับไทยอย่างเวียดนาม ว่าเขามีแผนการจัดการน้ำอย่างไร 

เวียดนามเป็นประเทศชายฝั่งทะเล มีฤดูฝนยาวนานประมาณ 5 เดือนต่อปี ทำให้ประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อถึงหน้าแล้ง เวียดนามก็ประสบภัยแล้งหนักมากเช่นกัน เพราะเป็นประเทศปลายน้ำ ทำให้ถูกประเทศต้นน้ำอย่างจีน ลาว ไทย กัมพูชาแย่งน้ำไปกักเก็บไว้ก่อนแล้ว แม้เวียดนามจะมีแม่น้ำถึง 39 สาย เป็นแม่น้ำสายใหญ่ 2 สาย แต่น้ำจืดที่ไหลลงมาไม่สามารถนำมาใช้สำหรับคนหลายล้านคนในเวียดนามได้ และซ้ำร้ายน้ำทะเลยังดันน้ำจืดจากปากแม่น้ำขึ้นไปตามแม่น้ำลำคลองต่างๆ ทำให้พืชผลการเกษตรเสียหาย และสัตว์น้ำที่เลี้ยงไว้ตายหมด โดยเฉพาะปีนี้ที่ปรากฏการณ์เอลนีญโยส่งผลให้น้ำแล้งจัดจนน้ำทะเลหนุนจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงขึ้นไปตามแม่น้ำเป็นระยะทางถึง 40 กิโลเมตร และน้ำกร่อยขึ้นไปถึงนครโฮจิมินห์ ซึ่งอยู่ห่างจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำประมาณ 100 กิโลเมตร

เวียดนามตื่นตัวเรื่องปรากฏการณ์เอลนีญโยตั้งแต่ปี 2014 แล้ว และพยายามหาทางจัดการน้ำให้ดีขึ้น โดยพยายามสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำเพิ่มเติม โดยเฉพาะเขื่อนขนาดเล็ก เพื่อใช้ในภาคเกษตรกรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ทรัพยากรน้ำมากที่สุด รัฐบาลพยายามกระจายอำนาจในการจัดการน้ำออกไปให้หน่วยงานท้องถิ่นดูแล เพื่อให้มีการเฝ้าดูระดับน้ำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาวิธีการกักเก็บน้ำฝน และบำบัดน้ำฝนที่ปนเปื้อนมลพิษ เพื่อนำมาใช้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษคือการสร้างโรงงานบำบัดน้ำเพิ่มเติม โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ที่มีการตั้งเป้าว่า จะสร้างโรงงานบำบัดน้ำให้ได้ 30 แห่งภายในปี 2020 โดยกำหนดว่านิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งขึ้นใหม่ทุกแห่งจะต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียกลาง และสถานีบำบัดน้ำเสียจะต้องมีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 20 ของโซนโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังต้องมีพื้นที่กำจัดขยะมูลฝอยอย่างถูกต้องด้วย เนื่องจากปัญหาน้ำเสีย ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังของเวียดนาม ทำให้ทรัพยากรน้ำที่มีอย่างจำกัดปนเปื้อน ไม่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภค หรือทำการเกษตรได้

ขณะที่สิงคโปร์ใช้มาตรการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้น้ำ และภาษีอนุรักษ์น้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้คนใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเวียดนามกลับเลือกใช้วิธีสร้างแรงจูงใจเพื่อส่งเสริมการประหยัดน้ำมากกว่า โดยมีการร่างกฎหมายว่า บ้านหรือบริษัทที่มีการนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ บำบัดน้ำเสีย กักเก็บน้ำฝน มีเครื่องมือผลิต หรือนำเข้าอุปกรณ์ เครื่องจักร หรือเทคโนโลยีในการประหยัดน้ำ รัฐบาลจะลดภาษีร้อยละ 5 - 10 หรือให้เครดิตในการขอกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเวียดนาม ซึ่งเหตุผลที่ต้องใช้วิธีนี้เป็นเพราะรัฐบาลรู้ดีว่า งบประมาณส่วนกลางอย่างเดียวไม่เพียงพอจะพัฒนาระบบจัดการน้ำทั้งระบบได้ภายในเวลาอันใกล้ จึงต้องจูงใจให้ภาคเอกชนร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ด้วย

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog